จากข้อมูลบนเว็บไซต์ Glassnode ขณะนี้จำนวน Address ของกระเป๋าเงิน (Wallet) ที่มีบิทคอยน์อย่างน้อย 1 BTC ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลอีกครั้ง โดยจากข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม มีจำนวนถึง 797,420 ใบเลยทีเดียว
แต่อย่างที่เราทราบกัน คนหนึ่งคนสามารถสร้าง Wallet ได้ฟรีและไม่มีจำนวนจำกัด นั่นแปลว่ากระเป๋าเงินเหล่านั้นบางใบอาจมีเจ้าของคนเดียวกันก็ได้ และจำนวนผู้ที่มีบิทคอยน์อย่างน้อย 1 BTC ในความเป็นจริงอาจจะน้อยกว่าจำนวนกระเป๋าเหล่านี้มาก
สาเหตุสองประการที่จำนวนกระเป๋าเพิ่มขึ้น
สาเหตุที่จำนวน Wallet เหล่านี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอาจมาจากนักลงทุนบางรายเห็นว่าราคาของบิทคอยน์ ณ ขณะนี้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการซื้อ โดยเฉพาะเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ราคาของบิทคอยน์ได้ร่วงลงอย่างรุนแรงจนไปแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งปีที่ 3,850 ดอลลาร์เลยทีเดียว
อีกปัจจัยหนึ่งอาจมาจากนักขุดบิทคอยน์ หรือ Miners ที่กำลังกักตุนบิทคอยน์จากความคาดหวังที่ว่า หลังจากการ Halving ที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤษภาคม จำนวน Supply ใหม่ของบิทคอยน์จะหายไปครึ่งหนึ่ง จาก 12.5 BTC เหลือเพียง 6.25 BTC ต่อหนึ่งบล็อกใหม่นั้น จะส่งผลให้ราคาของมันพุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง และบิทคอยน์ที่พวกเขากักตุนไว้ในเวลานี้นั้น จะเป็นตัวช่วยทำกำไรเมื่อธุรกิจเหมืองบิทคอยน์นั้นให้ผลตอบแทนที่ลดลงนั่นเอง
นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่คิดจะขาย Bitcoin เร็ว ๆ นี้
อีกข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ผู้ถือบิทคอยน์บางส่วนเลือกที่จะโอนเหรียญออกจากเว็บเทรด (Exchange) เพื่อมาเก็บไว้เอง ซึ่งเป็นสัญญาณว่า พวกเขาไม่ต้องการจะขายบิทคอยน์ที่มีอยู่ ณ ขณะนี้
อ้างอิงจากข้อมูลของ Glassnode จำนวนบิทคอยน์ที่ฝากอยู่บน Exchange ได้ลดลงมาต่ำถึงระดับเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว ซึ่ง ณ ขณะนั้นราคาของบิทคอยน์อยู่ที่ประมาณ 7,300 ดอลลาร์ฯ
การ Halving ที่กำลังจะมาถึงในเวลาเพียงอีกหนึ่งเดือนกว่า ๆ หรือคาดการณ์กันว่าจะเกิดขึ้นในประมาณช่วงวันที่ 13 ของเดือนพฤษภาคม จะส่งผลด้านปัจจัยพื้นฐานต่อราคาของบิทคอยน์อย่างใหญ่หลวง ราคาจะไปอยู่ที่จุดใดเมื่อการ Halving มาถึง ราคาจะร่วงหลังจากนั้นไหม หรือจะพุ่งทะยานไปต่อ? เราคงจะได้เห็นบทสรุปกันเร็ว ๆ นี้
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Kraken คาด เงินมรดกอาจทำให้ราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้นถึง 350,000 ดอลลาร์
