fbpx
Skip to content Skip to footer

Bitcoin Halving ไม่ได้หมายความว่าราคาจะขึ้น อย่ามโนไปเอง

bitcoin halving

Bitcoin Halving กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (12 พฤษภาคม 2563) ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ ที่จะเกิดขึ้นสี่ปีครั้งหนึ่ง เหตุการณ์นี้ทำให้นักลงทุนในคริปโตทั่วโลกตื่นเต้นและคาดหวังว่าราคาจะพุ่งกลับมาเป็นขาขึ้น

อ่านเพิ่มเติม : Bitcoin Halving คืออะไร? เมื่อบิทคอยน์โดนหั่นครึ่ง

และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม ราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้นเหนือ 10,000 ดอลลาร์ ทำเอานักเทรดตื่นเต้นเกิดอาการ FOMO (กลัวตกรถ)กันเป็นแถว แต่แล้วเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม นักเทรดก็ฝันสลายเพราะราคาร่วงแรงกว่า 15% ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 8,100 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย 

ก่อนอื่นต้องอธิบายให้ชัดว่าการเกิด Bitcoin Halving ไม่ได้หมายความว่าราคาบิทคอยน์จะเป็นขาขึ้นแต่อย่างไร เข้าใจว่าสาเหตุที่คนส่วนใหญ่คิดว่าราคาต้องขึ้นเพราะสถิติเก่าระบุว่าหลัง Halving แล้วราคาจะเป็นขาขึ้น

แต่จากสถิติเก่าจะเห็นชัดเจนว่าหลังวันที่เกิดการ Halving ราคาบิทคอยน์มักจะมีการลงมาปรับฐานด้วยซ้ำ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นทีหลังและสร้างจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ทุกครั้ง

อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจให้ชัดว่าการเกิด Halving ไม่ได้มีผลโดยตรงให้ราคาเป็นขาขึ้น เหมือนกับการปรับเปลี่ยนราคาพาร์ของหุ้นหรือการจ่ายปันผลของหุ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อราคาหุ้นโดยตรง

แต่การ Halving เป็นเพียงการสร้างผลข้างเคียงเชิงบวกต่อราคาบิทคอยน์เท่านั้น เช่นการทำให้ Supply เกิดใหม่ของบิทคอยน์ลดลง อันจะส่งผลให้มูลค่าของบิทคอยน์ในเชิง Scarcity เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยหลังที่ทำให้ราคาสูงขึ้นแต่อย่างไร

เพราะราคาของบิทคอยน์มีทั้งปัจจัยฝั่ง Demand และ Supply แม้ว่าฝั่ง Supply จะลดลงก็ตาม ในเชิงทฤษฎีหาก Demand ยังอยู่ในระดับเดิม ราคาก็มีสิทธิ์ปรับตัวขึ้นได้ 

แต่ในตลาดการลงทุนโดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ไม่สามารถนำทฤษฎีมาวิเคราะห์ตรง ๆ ตัวได้เสมอไป ดังคำกล่าวของเบนจามิน เกรแฮมที่พูดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดสิ่งนั้นถูกเสมอ (Mr.Market is Always Right)

การที่บิทคอยน์จะเป็นขาขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ต้องมีฝั่ง Demand เข้ามาสนับสนุน เช่นเดียวกับทองคำที่มีคุณค่าในเชิง Scarcity เหมือนบิทคอยน์ แต่มี Demand จากนักลงทุนสถาบันเข้ามาซื้อเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ

ขณะที่บิทคอยน์จะมี Demand เข้ามาในภาวะที่โลกการเงินกำลังปั่นป่วนหรือไม่ยังต้องติดตามกันต่อไป หากมีนักลงทุนสถาบันชั้นนำอย่างเช่น Paul Tudor Jones ที่ประกาศว่าได้ซื้อบิทคอยน์เพื่อป้องกันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกสองสามคนก็น่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่ามวลชนมองบิทคอยน์เป็นสิ่งที่มีมูลค่าในตัวเองจริง ๆ ไม่ใช่เพียงสินค้าเก็งกำไร

หากยังฟื้นตัวไม่ผ่าน 10,000 ดอลลาร์หยุดคิดถึงขาขึ้นไปก่อน

bitcoin halving

ระยะสั้น บิทคอยน์ ยังไม่ถึงกับเสียทรงขาขึ้นนักโดยแนวรับเทรนด์ไลน์ยังทำหน้าที่ได้ดีที่ระดับ 8,100 ดอลลาร์ ใช้เส้นสีเหลืองเป็นจุดซื้อได้อีกครั้ง หากราคาลงมาอีกแต่ถ้ารับไม่อยู่ต้องรีบขายไปก่อน เพราะจะพลิกเป็นขาลงชัดเจน

bitcoin halving

ภาพใหญ่ของบิทคอยน์ หากการฟื้นตัวรอบนี้ยังไม่สามารถผ่านระดับ 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมและเป็นแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาได้ ความหวังที่จะเห็นราคาวิ่งขึ้นไปรับการ Halving อาจจะต้องพักไปก่อน เพราะยังไม่สามารถสร้าง Higher High ได้

แต่ถ้าผ่านไปได้ซึ่งน่าจะทะลุผ่านเส้นเทรนด์ไลน์ขากด (เส้นสีแดง) ที่ตีลงมาจากจุดสูงสุดเดิมตั้งแต่ปี 2018 จะถือเป็นการประกาศอิสระภาพของบิทคอยน์ได้สำเร็จและน่าจะเป็นขาขึ้นได้ยาว ๆ โดยจะมีแนวต้านระยะสั้นตาม Fibonacci ที่ 11,340 

bitcoin halving

ขณะที่ดัชนี SCN30 เคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 133 จุดลดลง 15% จากวันก่อนหลังขึ้นไปทำจุดสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 155 จุด ลดลงในระดับเดียวกับบิทคอยน์ที่ร่วงลง 15% จากจุดสูงสุด

คำขวัญประจำสัปดาห์นี้ “The Market Discounts Everything” ราคาที่เห็นในตลาดถูกต้องเสมอ

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN