แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังปั่นป่วน แต่บิทคอยน์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งแล้วว่าเป็นสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งและให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้ดีที่สุดในโลกโดยมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับทรัพย์สินปลอดภัยที่มีมานานนับพันปีอย่างทองคำอยู่เสมอ
โดยขณะนี้ทองคำซื้อขายกันอยู่ที่ราคา 1,735 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ 14% แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน บิทคอยน์ให้ผลตอบแทน YTD มากกว่าทองคำถึงกว่าเท่าตัว อยู่ที่ 32% YTD ถือเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในโลกของปีนี้ ในด้านของตลาดหุ้น ดัชนี Nasdaq ให้ผลตอบแทน YTD อยู่ที่ 2.5% และ S&P500 ยังคงติดลบอยู่ 12% โดยปู่ SET ของไทยยังติดลบอยู่เกือบ 20% เลยทีเดียว
แม้ความหวาดกลัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 จะส่งผลให้ตลาดทั่วทั้งโลกต่างสั่นคลอนรวมไปถึงบิทคอยน์ที่ปรับตัวลดลงมามากกว่า 50% ในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการ Halving ที่พึ่งเกิดขึ้น ส่งผลให้บิทคอยน์ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนและผู้คนที่มีชื่อเสียงในแวดวงการเงินออกมาให้เหตุผลสนับสนุนบิทคอยน์อยู่เรื่อย ๆ โดยล่าสุดผู้จัดการกองทุนชื่อดังนาย Paul Tudor Jones ได้ออกมาประกาศว่ากองทุน Hedge Fund ของเขาได้ซื้อบิทคอยน์เพื่อเป็นหลักค้ำประกันต่อเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นได้เร็ว ๆ นี้
นาย Anthony Pompliano ผู้ก่อตั้งบริษัท Morgan Creek Digital ยังได้ออกมาให้ความเห็นว่า “ผมคงไม่รอให้สื่อต่าง ๆ ออกมายอมรับว่าบิทคอยน์นั้นเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและเป็นเครื่องมือต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจที่ดีที่สุด เพราะต่อให้พวกเขาจะทำเป็นไม่รับรู้ แต่มันก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้”
ในปี 2019 ที่ผ่านมา บิทคอยน์ก็เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากเป็นอันดับหนึ่งที่ 87% โดย S&P500 ให้ผลตอบแทนตลอดปี 2019 อยู่ที่ 30% และทองคำที่ 18% เท่านั้น
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: เหตุผลง่าย ๆ ว่าทำไมบิทคอยน์จึงเหนือกว่าทองคำจากนักวิเคราะห์ของ Bloomberg
