อินดิเคเตอร์ Hash Ribbons ซึ่งวัดค่ากำลังการประมวลผล (Hashrate) ของเน็ตเวิร์คบิทคอยน์แสดงจุดที่นักขุดส่วนใหญ่โยนผ้ายอมแพ้ (Capitulation) และถอดปลั๊กออกจากวงการไป โดยเมื่อคำนวนจากข้อมูลในอดีต อินดิเคเตอร์แสดงจุดเข้าซื้อ (Buy) จะปรากฎขึ้นตามหลังภายใน 1 – 2 เดือน ส่งผลให้บิทคอยน์กลับตัวเป็นขาขึ้นครั้งใหม่
ซึ่งสัญญาณดังกล่าวเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เฉลี่ยแล้วประมาณปีละ 1 – 2 ครั้งเท่านั้นเอง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากการเทขายอย่างหนักเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากจุดเข้าซื้อจนถึงยอดบิทคอยน์ปรับตัวสูงขึ้น 35% จาก 7,130 ดอลลาร์ ขึ้นไปถึงยอดที่ 9,940 ดอลลาร์ และครั้งก่อนหน้าเมื่อปลายปี 2019 ราคาของบิทคอยน์ก็ปรับตัวสูงขึ้น 37% หลังสัญญานเข้าซื้อปรากฎขึ้นเช่นกัน
โดยล่าสุดนี้ ได้เกิดสัญญาน Capitulation ขึ้นมาแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่เกิดหลังจากการ Halving ทันที มีผลมาจากการที่นักขุดจำนวนมากต้องออกจากวงการไปเนื่องจากรางวัล Block Reward ลดลงไปถึงครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 6.25 BTC เท่านั้น และเมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ยแล้วสัญญาณ Buy จะเกิดขึ้นตามมาภายในอีก 1 – 2 เดือนนี้
สัญญานซื้อจะทรงพลังที่สุดเมื่อมันเกิดหลังจากการ Halving
อินดิเคเตอร์นี้จะทรงพลังที่สุดเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นทันทีหลังการ Halving (เส้นแนวตั้งสีแดง) ซึ่งในครั้งก่อนหน้าที่เกิดหลังการ Halving ในปี 2016 ส่งผลให้บิทคอยน์ทะยานขึ้น 3,200% ไปแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่เกือบ 2 หมื่นดอลลาร์ และสัญญาณที่เกิดหลังจาก Halving ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2012 ได้พาบิทคอยน์ทะยานสูงขึ้นถึงเกือบ 4,800% เลยทีเดียว
หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง การมาของสัญญาณซื้อที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ มีโอกาสพาบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้นประมาณ 4,000% ไปอยู่ที่ราว ๆ 36,000 ดอลลาร์หรือ 1.15 ล้านบาทต่อหนึ่งบิทคอยน์ ซึ่งอาจจะกลายเป็นจุดสูงสุดของขาขึ้นรอบใหม่ที่กำลังจะมาถึง
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดการณ์ในภาพใหญ่ที่ใช้สติถิมาทำนายอนาคตเท่านั้น ผลของอินดิเคเตอร์ที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ 100% เนื่องจากตลาดมีตัวแปรและปัจจัยมากมาย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Goldman Sachs จัดเสวนาวิเคราะห์ตลาดทองคำ บิทคอยน์ และเงินเฟ้อในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
