FED มีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับ 0% ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 5 ปี

ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ใกล้ระดับ 0% เป็นเวลา 5 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้น หลังจากพวกเขาเตรียมปรับใช้กลยุทธ์ใหม่ในการดำเนินนโยบายทางการเงิน

แนวทางใหม่ อาจถูกเปิดเผยออกมาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเดือนหน้า และจะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของผู้กำหนดนโยบายที่มีมุมมองผ่อนคลายมากขึ้นต่ออัตราเงินเฟ้อแม้ในอนาคต โดยพวกเขาได้มาถึงจุดที่ยินดีจะให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเหนือเป้าหมายเดิมที่ 2% เพื่อชดเชยภาวะเงินฝืดในอดีต

Jerome Powell ประธานของ FED มีกำหนดที่จะให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับกรอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติของ FED ซึ่งจะมีอายุประมาณ 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง โดยพวกเขาพูดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาถึงการประชุมของผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางที่เมือง Jackson Hole ซึ่งได้ยืดเยื้อมาจนถึงช่วงปลายปีนี้เนื่องจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19

Jason Furman อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของทำเนียบขาวและปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า

“ฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้าอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็น 0% ใน 5 ปีนับจากนี้”

แน่นอนว่านี่เป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนบางคน ซึ่งต้องขอบคุณนโยบายการเงินที่เอื้ออำนวยเป็นพิเศษของ FED ขณะที่ดัชนี S&P 500 กำลังซื้อขายกันที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะยังไม่ฟื้นตัวมากนักจากจุดตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิด The Great Depression เมื่อปี 1930

ในการประชุมเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้กำหนดนโยบายของ FED ทั้ง 17 คนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลกลางที่พวกเขาเป็นผู้กำหนดเป้าหมายจะยังคงอยู่ใกล้ 0% ในปีนี้และปีหน้า รวมถึงอัตราดอกเบี้ยอื่น ๆ ที่มองเห็นทั้งหมดยกเว้น 2 รายการจะยังคงอยู่ที่ระดับดังกล่าวในปี 2022

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ของ FED กล่าวว่าพวกเขาจะเปิดเผยคาดการณ์รายไตรมาสที่อัปเดตในการประชุมของพวกเขาในเดือนหน้า รวมถึงการคาดการณ์ครั้งแรกสำหรับปี 2023

“เราไม่ได้คิดที่จะคิดเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเลย” Jerome Powell กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ และเขาก็ได้พูดเรื่องนี้ซ้ำ ๆ ตั้งแต่นั้นมา

ส่วนทางค่าเงิน Eurodollar ซึ่งซื้อขายในตลาด Futures ก็ยังไม่ได้กำหนดราคาเบี้ยประกันภัยใด ๆ สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ไปจนถึงต้นปี 2023 โดยมีการปรับขึ้นราคาค่าเงินเต็มไตรมาสในช่วงปลายปี 2023 แม้ว่าผู้ค้าบางรายจะมองว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นเล็กน้อยเกินไป ในขณะที่มีความต้องการฉุกเฉินเกิดขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงกับเส้นทางของเศรษฐกิจที่อาจจะตกต่ำกว่านี้ในปี 2023 และ 2024 ซึ่งบางคนเห็นว่านโยบายการเงินที่ง่ายเป็นพิเศษจะทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อในที่สุด

ในสัญญาณของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ข้อมูลของรัฐบาลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม จากการประมาณการมากระบุว่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า ท่ามกลางความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่าโรงงานต่าง ๆ จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ในอดีตที่ผ่านมา FED เคยคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% เอาไว้เป็นเวลาถึง 7 ปีในระหว่างและหลังวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2008 ก่อนที่จะปรับขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2015 โดย ณ เวลานั้น Alan Blinder อดีตรองประธานของ FED และปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยอยู่ที่มหาวิทยาลัย Princeton ได้เคยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงต้องใช้เวลานานขนาดนี้ในการคลี่คลายวิกฤต แม้ว่าเขาจะเคยพูดในสิ่งเดียวกันกับ Powell เมื่อตอนที่ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับ 0% เป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2008 และมันได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ

Roberto Perli อดีตเจ้าหน้าที่ของ FED ซึ่งปัจจุบันเป็นหุ้นส่วนของ Cornerstone Macro LLC กล่าวว่า

“มีความเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบที่พวกเขาจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นเวลาถึง 7 ปีก่อนที่จะปรับขึ้นอีกครั้ง”

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา GDP ภายในประเทศที่ปรับชดเชยอัตราเงินเฟ้อแล้ว จะต้องใช้เวลานานกว่า 3 ปีจึงจะกลับมาสู่ระดับเดิมก่อนเกิดวิกฤตการเงินปี 2007-2009 แม้ปัจจุบันจะคาดว่าการฟื้นตัวจะเร็วขึ้นในครั้งนี้

Peter Hooper หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจระดับโลกของ Deutsche Bank มองเห็นว่า GDP ของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับในไตรมาสแรก ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 แม้ว่าปัจจัยขับเคลื่อนส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการพัฒนาและการแจกจ่ายวัคซีน

ส่วนการกระทำของ FED จะเป็นการเปลี่ยนแปลงในการตอบสนองต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน อันเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนนโยบายของพวกเขา

แม้ว่า FED จะเคยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม 2015 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในตอนนั้นอยู่ที่ 1.5% ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 5% แต่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะเห็นว่า FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายใต้เงื่อนไขที่คล้ายกันในปัจจุบัน

FED ประกาศเป้าหมายสำหรับอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2% ในปี 2012 ซึ่งเป็นครั้งแรก และเจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่าพวกเขาจะคงเป้าหมายไว้ที่ 2% เสมอไม่ว่าพวกเขาจะพลาดการบรรลุเป้าหมายมามากหรือนานแค่ไหนก็ตาม แต่ปัญหาก็คืออัตราเงินเฟ้อแทบจะไม่เคยสูงกว่า 2% เลยตั้งแต่นั้นมา

ภายใต้ระบอบการปกครองใหม่ คาดว่า FED จะแสวงหาอัตราเงินเฟ้อที่เฉลี่ยได้ประมาณ 2% เมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงกว่าเป้าหมายจะได้รับการยอมรับจาก FED โดยไม่ต้องกลัวว่าพวกเขาจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง

นอกจากนี้ FED ยังคาดว่าจะประมวลผลการเปลี่ยนแปลงแนวทางในการบรรลุการจ้างงานเต็มรูปแบบ โดยในอดีตเจ้าหน้าที่พยายามหลีกเลี่ยงการผลักดันให้ว่างงานอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติในระยะยาว ด้วยความกังวลว่าจะนำไปสู่อัตราเงินเฟ้อที่รวดเร็วเกินไป

Lewis Alexander หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภายในสหรัฐฯ ของ Nomura กล่าวว่า

“ตอนนี้พวกเขาเน้นไปที่ผลประโยชน์ของตลาดแรงงานที่มากขึ้น สำหรับเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งหมายความว่า FED จะไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อขัดขวางตลาดแรงงาน เว้นเสียแต่ว่าตลาดจะสร้างอัตราเงินเฟ้อในระดับที่พวกเขาไม่ต้องการ”

Yelena Shulyatyeva นักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg กล่าวว่า

“แนวทางการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ แต่ทางเลือกอื่นก็มีข้อบกพร่องอย่างเช่น ความท้าทายด้านการสื่อสาร ความยืดหยุ่นของนโยบายที่ลดลง รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ FED และอุปสรรคทางเทคนิคอื่น ๆ”

อนึ่งแล้วนั้น Jerome Powell กล่าวว่าเขาต้องการเห็นตลาดงานกลับสู่สภาวะก่อนเกิด COVID-19 เมื่ออัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับต่ำที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษที่ 3.5% ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 10.2%

ส่วน Alan Blinder กล่าวว่าจะใช้เวลาหลายปีในการทำเช่นนั้น

David Wilcox อดีตเจ้าหน้าที่ของ FED ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ที่สถาบัน Peterson for International Economics กล่าวว่า

“ฉันจะแปลกใจมากถ้าใช้เวลาไม่ถึง 3 ปีในการที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง โดยฉันเห็นได้ว่ามันจะนานถึง 6 หรือ 7 ปี าหกความเสียหายจากวิกฤตพิสูจน์ได้ว่ายาวนานกว่านี้มาก”

การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา World Maker