ตลาดคริปโตยังคงปรับฐานลงอย่างต่อเนื่องตามแรงเทขายในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทองคำ และน้ำมัน จากการเปิดเผยว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินที่ส่อไปทางฉ้อโกง ประกอบกับความกังวลในการล็อคดาวน์รอบสองในหลายประเทศจนทำให้เกิดแรงเทขายออกมาในทุกสินทรัพย์
ดัชนี SCN30 Index ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงจาก 240 จุดมาอยู่ที่ 222 จุด หรือ -8.10% เหรียญที่ฉุดดัชนีส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม DeFi ไม่ว่าจะเป็น Yearn.financ (YFI), Aave (LEND), Synthetix Network (SNX) และ Maker (MKR) ที่ถูกเทขายอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัปดาห์ที่ผ่านมา บิทคอยน์ ให้ผลตอบแทน -2.53% ทองคำให้ผลตอบแทน -2.63% น้ำมันดิบ WTI +3.68% ดัชนี NASDAQ -4.01% และดัชนี S&P500 -3.53%
วิเคราะห์กราฟเทคนิค LTC
LTC หรือ Litecoin เป็นเหรียญที่มุ่งเน้นทางด้านความเร็วและเป็นตัวทดสอบให้แก่บิทคอยน์ ในช่วงปีนี้ถือเป็นเหรียญที่ไม่มีความหวือหวาใด ๆและสามารถสร้างผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ได้เพียงแค่ 5.49% เท่านั้น อาจเป็นเพราะนักลงทุนให้ความสนใจในการเทรดโทเคนใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเตอร์ DeFi มากกว่า
กราฟเทคนิคของ LTC การที่หลุดกรอบ Price Pattern สามเหลี่ยม รวมถึงเส้น EMA9, 25 และ 50 ทำให้แนวโน้มทางเทคนิคไม่ค่อยสู้ดีนัก โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 38 ดอลลาร์ หากรับไม่อยู่อาจลงได้ถึงจุดต่ำสุดของปีนี้ที่ 24.80 ดอลลาร์
วิเคราะห์กราฟเทคนิค BCH
BCH หรือ Bitcoin Cash เป็นอีกเหรียญที่เกิดมาจากการ Hard Fork มาจาก BTC แนวโน้มที่ผ่านมาเป็นแบบเดียวกับ LTC นั่นคือไม่ได้รับความสนใจมากนักและตั้งแต่ต้นปียังทำผลตอบแทนได้เพียงแค่ 4.62% YTD เท่านั้น
ล่าสุดราคาได้หลุดแนวรับสำคัญที่ 226 ดอลลาร์ แต่ยังมีเส้นเทรนด์ไลน์ข้างล่างรับไว้ได้อยู่พอดี หากไม่หลุดลงไปจากนี้อีกยังสามารถซื้อเก็งกำไรได้ แต่หากรับไม่อยู่จะมีแนวรับถัดไปคือ 142 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมของปีนี้
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : หรือ UNI จะเป็นพระเอกที่ช่วยให้ตลาดคริปโตฯพ้นจากภาวะตลาดหมี?
