fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

JP Morgan เผยสามเหตุผลว่าทำไม Bitcoin ถึงเป็นขาขึ้นได้ในระยะยาว

รายงานล่าสุดจากฝ่าย Global Market Strategy ของ JP Morgan ได้เผยสามเหตุผลว่าทำไม Bitcoin ถึงมีศักยภาพจะเป็นขาขึ้นได้ในระยะยาว

โดยทางทีมวิจัยได้นำ Bitcoin มาเทียบกับทองคำ “ศักยภาพจะเป็นขาขึ้นในระยะยาวของ Bitcoin นั้นมีอยู่ไม่น้อยหากมันสามารถขึ้นมาเทียบเคียงกับทองคำได้ในแง่ของการเป็นสกุลเงินทางเลือก เนื่องจากคนยุคใหม่อย่างเช่น Millenials นั้นจะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในโลกของการลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ”

ทางทีมยังเผยอีกว่า มาร์เก็ตแคปของทองคำนั้นอยู่ที่ประมาณ 2.6 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ Bitcoin ที่มีมูลค่าตลาดเพียง 2.4 พันล้านดอลลาร์นั้นสะท้อนให้เห็นว่า Bitcoin ยังมีช่องทางให้เติบโตอีกมาก

โดยสามเหตุผลที่จะมาช่วยให้ Bitcoin เติบโตมากขึ้นมาระยะยาวนั้นประกอบไปด้วย

  1. การลงทุนในทองคำของภาคเอกชนมีมูลค่ามากกว่าตลาด Bitcoin ถึงสิบเท่า การที่บริษัทต่าง ๆ เลือกที่จะเข้ามาลงทุนใน Bitcoin จึงสามารถทำให้มันเติบโตได้อีกมาก
  2. เงินคริปโตเคอเรนซี่สามารถเป็นอะไรได้มากกว่าเงิน โดยพื้นฐานที่สร้างอยู่บนบล็อกเชนและการสร้าง Smart Contract ทำให้มันมีความสามารถต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น NFT, Social Token, DeFi และอื่น ๆ
  3. Bitcoin ยังเป็นสินทรัพย์ที่คนรุ่นใหม่หรือ Millenials เลือกลงทุน ซึ่งคนเหล่านี้กำลังก้าวขึ้นมาเป็นประชากรที่เป็นกำลังหลักของโลก

คำถามในตอนนี้ก็คือ อีกนานไหมกว่า Bitcoin จะขึ้นมาเทียบเคียงกับทองคำได้ในแง่ของมูลค่าตลาด?

เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบัน Bitcoin ยังอยู่ในระยะตั้งไข่ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนา และการยอมรับใช้ในวงกว้าง และในปัจจุบันนี้ มีประชากรเพียงประมาณ 1.5% ของโลกเท่านั้นที่ครอบครอง Bitcoin

อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทเอกชนต่าง ๆ เริ่มที่จะเข้ามาจับจองพื้นที่ในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับธนาคารก็กำลังปรับตัวโดยเสนอบริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น เราสามารถประมานการณ์ได้ว่า Bitcoin จะสามารถขึ้นไปเทียบเคียงชั้นกับทองคำได้ในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: มาอีกหนึ่ง! Mode Global บริษัทในตลาดหุ้นลอนดอนซื้อบิทคอยน์เป็นทุนสำรอง

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN