การที่นาย Joe Biden ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกาย่อมนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เราจะมาวิเคราะห์กันว่าทีมบริหารใหม่ของพรรคเดโมแครตจะเป็นผู้นำสหรัฐฯไปในทิศทางไหน และส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตเคอเรนซี่อย่างไรในช่วงอีกสี่ปีข้างหน้า?
ราคาของ Bitcoin ฟื้นตัวแรงจากการย่อลงไปทดสอบระดับ $14,000 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้กลับมาซื้อขายในบริเวณ $15,400 ดอลลาร์อีกครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนี้ไป รัฐบาลของไบเดนที่ย่อมแตกต่างจาก Trump จะส่งผลอย่างไรกับตลาดคริปโตเคอเรนซี่นี้
แรกเริ่มเลยคือการที่นาย Biden ต่างจากนาย Donald Trump ที่ตั้งป้อมและพูดอย่างเปิดเผยว่าเขาไม่ชอบ Bitcoin โดยความรู้สึกเป็นกลางของนาย Biden นี้ย่อมจะเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยและหาทางร่วมกันพัฒนาได้ง่ายกว่าในยุคของรัฐบาล Trump อย่างน้อยที่สุดที่จะไม่เกิดขึ้นแน่นอนก็คือการที่ราคาของ Bitcoin และตลาดหุ้นต้องพุ่งขึ้นพุ่งลงเพียงเพราะ Trump ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้โพสความคิดทุก ๆ อย่างลงในทวิตเตอร์ทุก ๆ ชั่วโมงได้
คณะบริหารของพรรคเดโมแครตมีเป้าหมายว่าจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินเยียวยาอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากครั้งที่แล้วที่มีการแจกเช็คให้แก่ประชาชนของสหรัฐฯจะเห็นว่ามันเป็นผลดีต่อ Bitcoin อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการที่ประชาชนส่วนหนึ่งนำเช็คดังกล่าวมาใช้ซื้อ Bitcoin โดยตรง หรือการที่มันจะเป็นตัวกระตุ้นให้เงินดอลลาร์ยิ่งอ่อนค่าและเป็นผลดีต่อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง Bitcoin และทองคำในระยะยาว
นอกจากนี้ Biden ยังมองหาสมาชิกใหม่ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาร่วมทีมบริหาร ซึ่งย่อมจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมคริปโตในแง่ของกฎระเบียบข้อบังคับที่ชัดเจนและทันต่อยุคสมัยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นาย Patrick Tan ซีอีโอของ Novum Alpha ให้ความเห็นว่าคณะรัฐมนตรีของ Biden น่าจะให้ความสนใจกับการกระทำความผิดของผู้ให้บริการทางการเงินนอกกฎหมายในรูปแบบเก่าเช่น เงินกู้นอกระบบ และการทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรมมากกว่าจะมาสนใจตลาดคริปโตในทันที
“การที่ธนาคารและสถาบันการเงินเริ่มเข้ามาในวงการคริปโตเคอเรนซี่มากขึ้นในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาอาจจะต้องหยุดชะงักลงก่อนจนกว่าจะทราบแนวทางที่ชัดเจนจากคณะบริหารของนาย Biden ว่าจะเป็นอย่างไร” เขาเสริม
นอกไปจากนั้น มีข่าวลือว่านาย Biden กำลังเทียบเคียงอดีตประธานคณะกรรมการตลาดซื้อขายล่วงหน้าและสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) นาย Gary Gensler เข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินเพื่อกำกับดูแลควบคุมตลาดหุ้น โดยก่อนหน้านี้นาย Gensler มีมุมมองที่ค่อนข้างเป็นบวกต่อ Bitcoin โดยเคยกล่าวว่า “มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทางการเงิน”
และยังมีแนวโน้มว่านาย Lael Brainard อดีตผู้ว่า Fed จะมาแทนที่ รมต.การคลังคนปัจจุบันคือนาย Steven Mnuchin ที่เคยกล่าวหาว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือที่อาชญากรใช้ในการฟอกเงินและมีข่าวลือว่า Trump เคยสั่งให้เข้า”เล่นงาน” Bitcoin มาก่อนหน้านี้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม: อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯแฉ! ทรัมป์เคยสั่ง รมต.กระทรวงการคลังให้ “เล่นงานบิทคอยน์”
นาย Brainard นั้นแตกต่างจากนาย Mnuchin อย่างสิ้นเชิง โดยเขาเคยนำทีมของมหาวิทยาลัย MIT ในการวิจัยและศึกษาเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) มาแล้วอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศก็ไม่อาจหยุดยั้งการเติบโตของ Bitcoin ได้ โดยมีผลอย่างมากก็แค่สนับสนุนหรือเตะถ่วงให้การเติบโตช้าลงเท่านั้น โดยในที่สุดแล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถถูกควบคุม ปลอมแปลง หรือหยุดยั้งได้ก็จะเดินหน้าเติบโตต่อไปเพื่อเป็นเงินของประชาชนอย่างแท้จริงเหมือนในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Bitcoin ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการต่อต้านอำนาจรัฐได้อย่างไร?
