เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 4 ทุ่มประเทศไทย Bitcoin สร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 19,799 ดอลลาร์ ลบสถิติเดิมที่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมของปี 2017 ได้สำเร็จ
ปีนี้ยังเป็นปีที่สดใสของ Bitcin โดยให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ 170% ขณะที่เหรียญอื่นๆอย่าง Chainlink สร้างผลตอบแทนสูงสุดที่ 707% รองลงมาคือ ETH 388% XLM 304% และ XRP 236%
สัปดาห์ที่ผ่านมา บิทคอยน์ ให้ผลตอบแทน +4.94% ทองคำให้ผลตอบแทน -3.15% น้ำมันดิบ WTI +4.62% ดัชนี NASDAQ +3.04%% และดัชนี S&P500 +1.23% บิทคอยน์ จึงเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดหนึ่งเดือนติดต่อกัน
ขณะที่ดัชนี SCN30 Index ยังคงสร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องล่าสุดอยู่ที่ 417 จุด เท่ากับว่าผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีรวมแล้วอยู่ที่ 317%
สิ่งที่น่าจับตาหลังจากนี้คือหลังจากนี้จะมีเหรียญใดที่สามารถสิ่งทำ All Time High ใหม่ตามหลังบิทคอยน์ได้ในที่สุดและตลาดคริปโตหลังจากนี้จะเข้าสู่ภาวะกระทิงหรือไม่
ข้อมูลจาก Coingecko ระบุว่า ETH มีจุดสูงสุดเดิมที่ 1,448 ดอลลาร์ ยังห่างจากราคาปัจจุบัน 58% ส่วน XRP มีจุดสูงสุดเดิมที่ 3.40 ดอลลาร์ ห่างจากราคาปัจจุบัน 80% เหรียญที่ห่างไกลที่สุดน่าจะเป็น BCH ที่ห่างจากราคาปัจจุบันถึง 90% จะเห็นได้ว่าเหรียญมาร์เกตแคปใหญ่ยังห่างจากจุดสูงสุดเดิมเมื่อสามปีที่แล้วตั้งแต่ 70-90% ทั้งสิ้น
หากวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐาน ETH มีโอกาสที่สุดในการขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่จากการที่โปรเจกต์ ETH2.0 กำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับหากกระแสของ DeFi กลับมาอีกครั้งจะเป็นปัจจัยบวกผลักดันราคา ETH ให้ปรับตัวขึ้นต่อได้
ขณะที่ XRP นอกจากกระแสของการแจกเหรียญ Spark ฟรีแล้วดูยังไม่เห็นปัจจัยบวกทางด้านพื้นฐานที่ชัดเจนมากนัก แม้ว่าราคาจะพุ่งแรงที่สุดในรอบสัปดาห์ ดูแล้วยังต้องจับตาปัจจัยพื้นฐานเสียก่อน
ส่วนเหรียญที่ Hard Fork มาจากบิทคอยน์อย่าง LTC,BCH และ BSV ก็มีโอกาสที่จะตามบิทคอยน์ไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้เช่นกัน หากนักลงทุนมีการโยกเงินจากบิทคอยน์ที่ทำ All Time High ไปก่อนแล้วไปลงทุนในเหรียญอื่นที่มีอัพไซด์เกนเหลืออยู่
ติดตามกันต่อไปว่าพี่ใหญ่อย่างบิทคอยน์นำทีมสร้าง All Time High ไปแล้วเหรียญน้องจะวิ่งตามไปติดๆได้หรือไม่
