fbpx
Skip to content Skip to footer

สกุลเงินดิจิทัลจาก Facebook จะช่วยกระตุ้นตลาดคริปโตได้แค่ไหน

หลังจากเลื่อนมาหลายรอบ ถูกกระแสกดดันมามากมาย ในที่สุดสกุลเงินดิจิทัลของ Facebook ภายใต้ชื่อใหม่อย่าง Diem รวมถึง Stablecoin ที่ผูกกับสกุลเงินดอลลาร์น่าจะได้เปิดตัวในปี 2021 ที่จะถึงนี้เสียที

คำถามก็คือสกุลเงินดิจิทัลนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดคริปโตในภาพรวมได้มากน้อยแค่ไหน?? คำตอบขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้

หนึ่ง..จะมีกี่ประเทศที่เปิดให้บริการเพื่อลดแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล คาดว่า Facebook จะเลือกเปิดใช้สกุลเงินดิจิทัลใหม่นี้รวมถึง Wallet เป็นบางประเทศเท่านั้นที่ไม่ขัดกับกฎระเบียบ หากช่วงแรกของการเปิดตัวยิ่งครอบคลุมผู้ใช้งานมากเท่าไรก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นตลาดคริปโตในภาพรวมมากเท่านั้น

สอง..พันธมิตรธุรกิจสายคริปโตมีมากน้อยแค่ไหนปัจจุบัน Diem Association มีสมาชิกที่เป็นองค์กรธุรกิจอยู่ประมาณ 30 ราย ที่รองรับสกุลเงินดิจิทัลใหม่นี้ แต่ถ้าจะช่วยกระตุ้นตลาดคริปโตโดยตรงจะต้องมีสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจคริปโตโดยตรงอย่าง Exchange หรือเปิดรับการชำระเงินและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลกับสกุลเงิน Diem ยิ่งมีจำนวนมากก็จะช่วยเพิ่มผู้ใช้งานสกุลเงินดิจิทัลหน้าใหม่ได้มากเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ยังมีเพียง Coinbase ที่เป็นพันธมิตรที่เป็น Exchange 

สาม..กลยุทธ์การส่งเสริมผลิตภัณฑ์จาก Facebook หรือการต่อยอดทางธุรกิจให้เกิดการใช้งานสกุลเงินดิจิทัล Diem เช่นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Facebook Shop ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะมีการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลนี้ด้วยหรือไม่ หากแผนการเปิดตัวทำให้ทุกคนร้องว้าวได้ การใช้งาน Diem จะยิ่งแพร่หลายได้เร็วมากเท่านั้น

ไม่ว่าปัจจัยทั้งสามข้อนี้จะเกิดขึ้นแบบไหน การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลของ Facebook ถือเป็นปัจจัยเร่งให้เกิด Mass Adoption ที่ค่อนข้างมีอิทธิพลสูง น่าจะส่งผลบวกต่อตลาดคริปโตในภาพรวมอย่างแน่นอน แต่จะแรงแค่ไหนต้องติดตามกันต่อไป

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : MassMutual บริษัทประกันยักษ์ใหญ่อังกฤษรุกตลาด Bitcoin

วิเคราะห์กราฟเทคนิค BTC

BTC กลับมาฟื้นตัวยืนเหนือระดับ 19,000 ดอลลาร์ การกลับมาครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะต้องยืนเหนือระดับ 20,000 ดอลลาร์ เพื่อสร้าง All Time High ใหม่ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากทดสอบไปแล้วหนึ่งครั้งแต่ยังไม่สามารถยืนได้มั่นคง

หากไม่สามารถที่จะผ่าน 20,000 ดอลลาร์ได้ ระยะสั้นจะมีแนวรับคือเส้นเทรนด์ไลน์สีแดง หากรับไม่อยู่อาจจะลงลึกได้ถึงระดับ 16,000 ดอลลาร์ การที่ไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้แสดงถึงแรงส่งของราคาที่แผ่วลง อาจจะต้องมีสตอรี่ใหม่ๆเข้ามากระตุ้น

กลยุทธ์การเทรดสำหรับผู้ที่ยังไม่มีของอาจต้องรอดูสถานการณ์ว่าจะสามารถยืนเหนือ 20,000 ดอลลาร์ ได้ถึงค่อย Follow Buy หรือรอให้ราคาปรับฐานให้นิ่งก่อนแล้วถึงค่อยซื้อ

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Grayscale Investments ทุ่มกว่า300ล้านดอลลาร์ซื้อ BTC และ ETH เข้ากองทุน

วิเคราะห์กราฟเทคนิค ETH

ETH ภายในสัปดาห์นี้มีแนวต้านอยู่ที่ 625 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้จะลุ้นทดสอบจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 637 ดอลลาร์ หากไม่สามารถผ่านไปได้จะมีแนวรับแรกที่ 572 ดอลลาร์ หากรับไม่อยู่จะใช้เส้นเทรนด์ไลน์สีเหลืองเป็นแนวรับ

สัปดาห์นี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่จะชี้ว่าทิศทางของ ETH ว่ายังมีโมเมนตัมขาขึ้นหรือไม่ หากไม่สามารถที่จะทำ Higher High ได้อาจเป็นการบ่งบอกว่ายังไม่มีแรงส่งมากพอที่จะผลักดันให้ราคาไปได้ไกลกว่านี้

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : DBS เตรียมเปิดแพล็ตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโต SGX ร่วมถือหุ้น 10%

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN