Crypto.com เผยรายงานการใช้จ่ายของผู้บริโภค หรือ Consumer Spending Insights Report ประจำปี 2020 ซึ่งให้รายละเอียดแนวโน้มข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตร Visa ซึ่งเป็นบัตรที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก
รายงานดังกล่าวนับเป็นรายงานฉบับแรกที่ศึกษาแนวโน้มการใช้จ่ายผ่านบัตร Crypto.com Visa Card ซึ่งรายงานพบว่า การใช้จ่ายโดยรวมต่อผู้ใช้ในปี 2020 เพิ่มขึ้น 55% ในอัตรารายปี (YoY) โดยมีการใช้จ่ายออนไลน์เพิ่มขึ้น 117% เมื่อเทียบกับการเติบโตของการใช้จ่ายโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเภทที่อยู่อาศัย ของใช้ในครัวเรือนร้านขายของชำ และธุรกรรมข้ามพรมแดน
ขณะเดียวกัน ผู้ถือบัตรยังจับจ่ายใช้สอยกับผู้ค้าใน 143 ประเทศทั่วโลก ในผู้ค้าจำนวนนี้เกือบครึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกา (24%) และในอังกฤษ (23%) โดยรายงานยังเผยให้การถึงการเติบโตโดยรวมอย่างแข็งแกร่งของบัตรวีซ่า และพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการระบาดแพร่กระจายไปทั่วโลกเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว การใช้จ่ายผ่านบัตร Crypto.com Visa Card เป็นไปทิศทางเดียวกันกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ OECD ( OECD’s Consumer Confidence Index) (ดังที่แสดงในแผนภูมิด้านล่าง), โดยในช่วง 4 เดือนแรกของการระบาด การใช้จ่ายปรับตัวลดลง ก่อนที่จะขยับปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (เส้นสีเหลือง) กลับคืนมา โดย การใช้จ่ายผ่านบัตร Crypto.com Visa Card (เส้นสีฟ้า) ต่อคนฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว และจบสิ้นปี 2020 ด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้น 55% จากปี 2019
Kris Marszalek ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) Crypto.com กล่าวว่า: “ ด้วยความพร้อมใช้งานของ Crypto.com Visa Card ของเรายังคงขยายไปทั่วโลก ทำให้ผู้คนใช้งานเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งข้อมูลการใช้จ่ายแบบละเอียดนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกอย่างมากเกี่ยวกับสถานที่ วิธีการ และสิ่งที่ใช้ในการซื้อผ่านบัตรทั่วโลก รวมถึงเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการใช้จ่ายที่สำคัญซึ่งเกิดจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 เรารู้สึกตื่นเต้นกับความหลากหลายของธุรกรรมที่ข้อมูลแสดงออกมา เพราะสะท้อนได้ว่าคริปโตยังคงผลักดันเข้าสู่ตลาดกระแสหลักอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการที่เรายังคงเดินหน้าขยายบัตรที่มีอยู่แล้วไปสู่ตลาดอื่นๆ มากขึ้น”
Crypto.com Visa Card เปิดตัวครั้งแรกในสิงคโปร์เมื่อปี 2018 โดยถือเป็นโครงการวีซ่าการ์ดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และปัจจุบันมีพร้อมใช้งานในสหรัฐฯ แคนาดา และ 31 ประเทศในยุโรป และบางประเทศในภูมิภาคเอชีย-แปซิฟิก
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว Crypto.com ได้ขยายความร่วมมือกับ Visa ซึ่งเพิ่งจะให้สถานะการเป็นสมาชิกหลักของ Visa กับทางบริษัท โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้ Crypto.com เริ่มออกบัตรให้กับลูกค้าในออสเตรเลียได้โดยตรง และเปิดทางให้บริษัทมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ถือบัตร
Crypto.com มีแผนที่จะขยายโครงการการ์ดดังกล่าวไปยังตลาดอื่น ๆ อีกมากมายทั่วโลก และเริ่มให้บริการการ์ดเสมือนจริง (virtual cards)ในยุโรปในเดือนนี้ เพื่อให้ผู้ใช้เริ่มใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องรอให้บัตรจริงมาถึง
