- ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินคริปโตกำลังไหลทะลักเข้าสู่ K Street มากขึ้นเรื่อยๆ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรอาวุโสสังกัดพรรครีพับลิกันก็ลุกขึ้นมาโจมตี แกรี เกนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ในการพยายามที่จะเข้ากำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซี
- ประเด็นปัญหาที่น่าสับสนของกระบวนการทางกฎหมาย ทำให้คริปโตเคอร์เรนซีนั่งอยู่ในจุดเชื่อมโตของหน่วยงานหลายแห่ง อย่าง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และ สำนักงานคณะกรรมการกำบสินค้าโภคภัณฑ์และการซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ (U.S. Commodity and Futures Trading Commission – CFTC)
ขณะที่ราคาของคริปโตเคอร์เรนซีพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว เหล่านักลงทุนราใหญ่บางรายในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลกลับไม่ได้ควักเงินใช้จ่ายความมั่งคั่งที่โกยมาได้ในช่วงนี้ด้วยการซื้อรถแลมโบกินีแจ่มๆ สักคัน แต่ดูเหมือบว่า นักล็อบบี้ส่วนหนึ่งจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ทั้งนี้ ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินคริปโตกำลังไหลทะลักเข้าสู่ K Street มากขึ้นเรื่อยๆ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรอาวุโสสังกัดพรรครีพับลิกันก็ลุกขึ้นมาโจมตี แกรี เกนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ในการพยายามที่จะเข้ากำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซี
Tom Emmer ตัวแทนพรรครีพับลิกันในมินนิโซตาและประธานร่วมของกลุ่มผู้ร่างกฎหมายที่สนใจในเทคโนโลยีบล็อคเชน กล่าวว่าเขาเชื่อว่า เกนสเลอร์ ได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตด้วยความพยายามในการขยายบทบาทของ SEC ในการควบคุมพื้นที่คริปโตเคอเรนซี
และดูเหมือนว่าจะมีหลักฐานยืนยันข้อกล่าวหาของ Emmer อย่างเพียงพอ
เมื่อไม่นานมานี้ Coinbase Global แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่จดทะเบียนใน Nasdaq ได้ย้อนกลับไปถึงแผนการที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ให้ยืมสกุลเงินดิจิทัลที่มีลักษณะคล้ายกับเงินฝากประจำหรือบัญชีธนาคาร เนื่องจากถูกคุกคามจากการดำเนินคดีจากสำนักงาน SEC.
เพื่อความเป็นธรรม ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสกุลเงินดิจิทัลที่เสนอโดย Coinbase Global ควรอยู่ในขอบเขตของสำนักงานควบคุมสกุลเงินแห่งสหรัฐอเมริกา ควรมีเขตอำนาจศาลในกรณีนั้น
ถึงกระนั้น เกนสเอลร์ก็ขู่ว่าจะดำเนินคดีเพื่อปิดความตั้งใจของ Coinbase Global โดยไม่ต้องออกหมายเรียกแรก
และนี่คือความกระตือรือร้นของผู้กำกับดูแลและการเข้าถึงที่ Emmer เชื่อว่ามีจำนวนเกินและเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวในวงกว้างโดยผู้สนับสนุน cryptocurrencies เพื่อผลักดันความพยายามที่นำโดยพรรคเดโมแครตเพื่อเพิ่มการกำกับดูแลตลาด 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
จากการขึ้นแถลงต่อหน้าสภาคองเกรสเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกนสเลอร์กล่าวว่าต้องการให้แพลตฟอร์มคริปโตเคอเรนซีลงทะเบียนกับ SEC โดยกล่าวเสริมว่า
“ตอนนี้ (นักลงทุน) ไม่ได้รับประโยชน์จากการต่อรองขั้นพื้นฐานที่เราปกป้องผู้คนจากการฉ้อโกงและการยักยอก ผู้คนจะเจ็บตัว”
ทว่า Emmer แสดงความไม่เห็นด้วยระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Financial Times โดยว่า
“ผมคิดว่าข้อเสนอสกุลเงินดิจิทัลหรือข้อเสนอที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินหรือสินค้าโภคภัณฑ์ SECไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด”
“หาก SEC ถือว่าเหรียญเหล่านี้เป็นหลักทรัพย์ มูลค่าของโทเค็นนั้นจะลดลง และนักลงทุนรายย่อยเหล่านั้นจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตรงข้ามกับภารกิจ (ของเกนส์เลอร์) และอำนาจของเขาโดยตรง”
ประเด็นปัญหาที่น่าสับสนของกระบวนการทางกฎหมาย ทำให้คริปโตเคอร์เรนซีนั่งอยู่ในจุดเชื่อมโตของหน่วยงานหลายแห่ง อย่าง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และ สำนักงานคณะกรรมการกำบสินค้าโภคภัณฑ์และการซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ (U.S. Commodity and Futures Trading Commission – CFTC)
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หยุด เกนสเลอร์จากการไปรุกคืบเพื่อพยายามรวมกฎระเบียบของคริปโตเคอร์เรนซีเข้ามาอยู่ภายใต้ร่มของ SEC ได้
ทว่า อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีก็สู้กลับเช่นกัน โดยบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล จัดตั้งบริษัทล็อบบี้น้องใหม่ เพื่อโต้แย้งในนามของพวกเขาในสภาคองเกรส และทำการแนะนำชักชวนสมาชิกรัฐสภา ซึ่งนักล็อกบบี้เหล่านี้ก็ได้พบกลุ่มเป้าหมายที่ตอบรับในบล็อกเชนอย่าง Emmer
