fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

บอกได้เลยว่าครึ่งเปอร์เซ็นต์

  • เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันความเชื่อมั่นของผู้จัดการตลาดเงินว่าธนาคารกลางมีกำหนดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 %ในเดือนพฤษภาคม
  • ประมาณการส่วนใหญ่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในเดือนพฤษภาคม หนึ่งครั้งในเดือนมิถุนายน แต่แนวโน้มในเดือนกรกฎาคมยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายพยายามทำสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ การลงจอดอย่างนุ่มนวลสำหรับสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ร้อนเกินไป

เมื่อวานนี้ จดหมายข่าวฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนควรรู้สึกขอบคุณหากธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดในเดือนพฤษภาคม และผู้จัดการตลาดเงินได้กำหนดราคาขึ้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตลาดต่างตกตะลึงเมื่อ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ย้ำสิ่งที่หลายคนรู้มาตลอดนั่นคือการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบใหม่ที่ 0.50%

ณ การประชุมที่ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นเจ้าภาพเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่กรุงวอชิงตัน พาวเวลล์ตั้งข้อสังเกตว่า

“ผมเห็นว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50% เป็นวาระที่จะอยู่บนโต๊ะประชุมในเดือนพฤษภาคมนี้”

ที่สำคัญกว่านั้น พาวเวลล์มองว่าความต้องการแรงงาน “ร้อนเกินไป” ซึ่งบ่งชี้ว่าเข็มเหวี่ยงไปอีกด้าน ซึ่งเกี่ยวกับความกังวลว่าการปรับขึ้นค่าแรงอาจทำให้เกิดเกลียวราคาค่าจ้างของอัตราเงินเฟ้อที่วิ่งหนีจากสิ่งที่นโยบายการเงินสามารถแก้ไขได้

ทั้งนี้ เมื่อเฟดเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่ร้อนแรงที่สุดในรอบสี่ทศวรรษ พาวเวลล์แนะนำว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% “หรือมากกว่า” อาจเหมาะสมที่จะควบคุมแรงกดดันด้านราคาที่เกิดขึ้น

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฟดไม่จำเป็นต้องขึ้นบาร์ถึง 50 คะแนนพื้นฐาน เนื่องจากเป็นเดิมพันที่โต๊ะสำหรับการประชุมนโยบายทุกครั้ง ซึ่งพาวเวลล์เองก็พาดพิงถึงเมื่อเขาตั้งข้อสังเกต

“มีบางอย่างในแนวคิดของภาระโหลดในส่วนหน้า”

หมายความว่าในขณะที่ธนาคารกลางอาจปรับขึ้น 0.50% ในเดือนพฤษภาคม ไม่ได้หมายความว่าการประชุมที่นั่นหลังจากนั้นตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ทุกครั้งจะเริ่มต้นจากจุดนี้

จนถึงตอนนี้ นักลงทุนกำลังเดิมพันว่าจะมีการขึ้นครึ่งจุดในเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และอาจจะเป็นกรกฎาคม แต่นอกเหนือจากนั้นคณะลูกขุนยังคงพิจารณาถึงทิศทางของนโยบาย

และในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายต้องการให้ Goldilocks เชื่อมโยงไปถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่หลวมจนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่ไม่แน่นจนเกินไปจนทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย พวกเขากำลังใช้เครื่องมือที่ไม่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้บรรลุ – นโยบายการเงิน

นโยบายการเงินเทียบเท่ากับการใช้ค้อนกะเทาะเปลือกวอลนัท แล้ววาดหวังว่ายังมีอะไรเหลือให้กินเมื่อสิ้นสุดการฝึก และความเสี่ยงก็ซ้อนทับกันจนทำให้ผู้กำหนดนโยบายเข้าใจผิดได้

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN