ในงานประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้หารือกันในประเด็นของเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ได้กลายเป็น สกุลเงินสำรอง ของโลกและถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่สุดในระบบการเงิน ณ ปัจจุบัน
โดยการพูดคุยในหัวข้อ “การท้าทายอำนาจของเงินดอลลาร์” ได้มุ่งเน้นไปในเรื่องของปัจจัยที่ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลายเป็นระบบการชำระเงินที่โดดเด่นและกลายเป็นสกุลเงินสำรองของโลก รวมถึงไปถึงการที่หลายๆประเทศทั่วโลกในปัจจุบันกำลังพยายามลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯอีกด้วย
สำหรับผู้ร่วมสนทนานั้น ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน เช่น นายPaulo Guedes รัฐมนตรีเศรษฐกิจของบราซิล นางGita Gopinath ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) นายAdam Tooze ผู้อำนวยการสถาบันยุโรปจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย รวมถึง นายMario Centeno รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของโปรตุเกส และ นายZhu Ning อาจารย์ด้านการเงินที่มหาวิทยาลัย Tsinghua
นางGita Gopinath ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ IMF มองว่า Libra ของ Facebook เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนในแวดวงการเงินทั่วโลกมองย้อนกลับมาพิจารณาสถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นสกุลเงินสำรองอีกครั้ง โดยหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯนั้นน่าสนใจก็คือความน่าเชื่อถือและความมั่นคง เพราะเป็นสกุลเงินที่มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูงที่สุด เพราะถ้าหากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาเงินดอลลาร์นี่แหละจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ทางด้านนายPaulo Guedes รัฐมนตรีเศรษฐกิจของบราซิล ก็ได้สนับสนุนความคิดเห็นดังกล่าว โดยเขาเชื่อว่า เทคโนโลยีใหม่อย่างบล็อคเชนกำลังปูทางไปสู่การใช้งานสกุลเงินดิจิตอลในอนาคต
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกจาก WEF ก็เห็นตรงกันว่า Libra ของ Facebook ได้ผลักดันให้หน่วยงานทั่วโลกเริ่มหันมาพิจารณาทบทวนวิธีการใช้สกุลเงินสำรองของโลกนั้นเป็นการตอกย้ำการก้าวขึ้นมาของเทคโนโลยีอย่างฟินเทคและบล็อกเชน
ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่บางส่วนมองว่า Libra เป็นภัยและอาจมาแทนที่เงินดอลลาร์ได้ โดยนาย Mark Carney ประธานธนาคารกลางของอังกฤษได้ให้ความเห็นว่า การใช้เงินดิจิตอลอย่างแท้จริงมาเป็นเงินสำรองน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้เงินของประเทศใดประเทศหนึ่ง
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: “Inthanon-LionRock” Co-developed Project between Thai and Hong Kong Runs Successfully
