fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

กระแสบูม บิทคอยน์? งานนี้ต้องโทษภาคธนาคาร

  • การแทรกแซงของธนาคารกลางเป็นการป้องกันไม่ให้บิทคอยน์ล่มเป็นครั้งที่สอง 
  • การเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของสถาบันการลงทุนชั้นนำยังสร้าง “ฐาน” รองรับให้แก่บิทคอยน์

 

ถ้าหากว่าประวัติศาสตร์คือครูที่ดี ราคาบิทคอยน์ในตอนนี้ก็น่าจะล่มได้แล้ว 

โดยในช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ราคาที่เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายของบิทคอยน์จนเกือบแตะ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ได้ก่อให้เกิดการล่มสลายในคริปโตเคอร์เรนซี ที่หลายคนให้นิยามว่า “เหมันต์แห่งคริปโต” (Crypto Winter)

อย่างไรก็ตาม ฤดูใบไม้ผลิของคริปโตเคอร์เรนซีก็ได้ปรากฎให้เห็นในสภาพที่คงทนมาก อย่างน้อยก็ในห้วงเวลานี้ ซึ่งต้องขอบคุณการหลั่งไหลเข้ามาของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน

ราคาบิทคอยน์ก้าวเข้าสู่เดือนใหม่ที่ระดับราคาเหนือ 36,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลที่กว่า 41,000 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนที่แล้ว 

จนถึงขณะนี้ บิทคอยน์สามารถจัดการหลบเลี่ยงการเดินซ้ำรอยภาวะราคาดิ่งแรงในปี 2017 โดยนักลงทุนบางคนให้เหตุผลว่าเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นของธนาคารโลก ที่ทำให้ราคาสินทรัพย์ทั่วโลกอยู่ในภาวะเฟ้อ จนนักลงทุนเร่งตามล่าหาผลตอบแทนในตลาดอย่างบ้าคลั่ง 

ด้านนักลงทุนมืออาชีพต่างเริ่มเข้ามาในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีด้วยบทบาทที่กระตือรือล้นมากขึ้น หลังสภาพคล่องของตลาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 

อย่างไรก็ตาม หลายคนอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า บิทคอยน์จะยังคงอยู่ในสภาวะฟองสบู่ต่อไป ก่อนชี้ให้เห็นถึงภาวะผันผวนเมื่อไม่นานมานี้ที่ราคาหุ้นของหลายบริษัทอย่าง GameStop และ AMC Entertainment ปรับตัวพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงราคาโลหะเงินในตลาดว่าเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความผันผวนที่เกิดจากนักลงทุนรายย่อยจงใจเข้ามาบิดเบือนความเคลื่อนไหวตามปกติของตลาด 

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ข้างต้นได้รับแรงผลักดันหลักๆ จากนักลงทุนรายย่อยที่ขณะนี้ตบเท้าเข้ามรวมตัวเป็นกองทัพบวกกับเครื่่องมือทางการลงทุนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และกลายเป็นผู้ชมที่ตกเป็นเชลย (ถ้าไม่แน่นอน) ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างมาก อีกทั้งนักลงทุนรายย่อยเหล่านั้นยังมีอีกหนึ่งวิธีในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลนอกเหนือจากการซื้อผ่านแอปเช่น Robinhood

Coinbase หนึ่งในแพล็ตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีลำดับต้นที่ได้รับอนุญาตอยางเป็นทางการในสหรัฐฯ กำลังเตรียมพร้อมที่จะจดทะเบียนหุ้นได้โดยตรง ซึ่งจะเปิดทางให้นักลงทุนสามารถเปิดรับเข้าถึงอุตสาหกรรมบริการด้านคริปโตเคอร์เรนซีได้มากขึ้น 

การจดทะเบียนโดยตรงของ Coinbase ครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่เหล่านักลงทุนต่างไล่ล่าหาตัวแทนที่จะเข้าไปลงทุในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปถือครองด้วยตนเอง ซึ่งรวมถึงช่องทางการลงทุนยอดนิยมของนักลงทุนสายดั้งเดิมอย่าง Grayscale Bitcoin Investment Trust ในการเข้าลงทุนในบิทคอยน์

ส่วน MicroStrategy (+3.29%) บริษัทธุรกิจซอฟท์แวร์กล่าวเมื่อปีที่แล้วว่า ได้ระดมทุนด้วยการเทขายพันธบัตรมูลค่ารวม 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐนเพื่อนำเงินไปซื้อบิทคอยน์มากขึ้น หลังจากที่เพิ่งตกเป็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งในช่วงต้นปีที่แล้ว ด้วยการเพิ่มสัดส่วนบิทคอยน์ราว 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐในงบดุลบัญชีของบริษัท ซึ่งขณะนี้คาดว่ามูลค่าดังกล่าวน่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าแล้ว 

ขณะที่เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว นักวิเคราะห์จาก Manulife (+1.22%) บริษัทด้านประกันภัยในแคนาดากล่าวว่า การขยายดุลบัญชีของธนาคารกลาง และหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น ได้ผลัดให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ทางเลือกในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้คริปโตเคอร์เรนซีกลายเป็นทางเลือกหรือโซลูชั่นส์ที่นักลงทุนเกรงว่า การเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นพิเศษของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่การจัดสรรทรัพยากรที่ไม่ถูกต้อง

พูดอีกทางหนึ่งก็คือ ถ้าหากบิทคอยน์จะกลายเป็นกระแสนิยมขึ้นมา งานนี้ต้องโทษว่าเป็นฝีมือของบรรดาธนาคารกลาง

 

 

 

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN