การอัพเกรด Ethereum (ETH) 2.0 นั้นมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลัก 2 ประการคือการเพิ่ม Scalability ให้แก่เน็ตเวิร์กเพื่อรองรับปริมาณการทำธุรกรรมที่มากขึ้นและการทำ Staking เพื่อได้รับส่วนแบ่งจากการเป็นผู้ดูแลระบบ
นักลงทุนหลายรายอาจกำลังเร่งเก็บ Ethereum กันเนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่า การที่จะเป็นผู้ดูแลระบบได้นั้นจำเป็นต้องมี ETH อย่างน้อย 32 เหรียญ แต่หลาย ๆ คนก็กลับกังวลใจว่าการทำ Staking นั้นอาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในระบบพอสมควรจึงจะเริ่มทำการ Staking ได้อย่างปลอดภัย
ผู้ใช้ Medium รายหนึ่งภายใต้ชื่อ “heyheeyheeey” ได้เสนอแนวคิดที่น่าสนใจในการทำ Staking ผ่านกระเป๋าสตางค์ (Wallet) ที่มีฟังก์ชันรองรับระบบ DeFi อย่าง Argent โดยเสนอแนวคิดภายใต้คอนเซปท์ที่ว่า “การทำ Staking นั้นต้องง่าย ผู้ใช้ที่ไม่มีเวลา ความรู้ หรือประสบการณ์ก็สามารถเข้าร่วมได้”
ไอเดียนี้ต้องการฉีกข้อจำกัดและเปิดทางให้ผู้ใช้ที่มีทุนทรัพย์และความรู้ไม่มากสามารถร่วมเป็นผู้ตรวจสอบระบบ (Validator) ได้โดยไม่จำเป็นต้องถือ ETH ครบ 32 เหรียญและมีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่ง
โดยผู้แต่งได้ทำการวิจัยว่าผู้ใช้ต้องการอะไร และออกแบบ Flow การทำงานให้เรียบง่าย โดยผู้ใช้สามารถทำการ Stake และ DeStake ได้ภายในไม่กี่คลิ๊ก และยังสามารถเลือกลง Pool ที่ให้ผลตอบแทนหรือมีระยะเวลาการ Stake ตามที่ผู้ใช้ต้องการอีกด้วย
UI ที่เข้าใจง่ายจะบอกรายละเอียดทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น อัตราผลตอบแทน อัตรา Uptime ค่าธรรมเนียมในการ Stake/DeStake จำนวนผู้ร่วม Stake จำนวน ETH ที่อยู่ใน Pool และอื่น ๆ
นอกเหนือจากการทำ Staking แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถทำการรับผลตอบแทนจากการปล่อยกู้ผ่านระบบ DeFi อื่น ๆ ที่เป็นฟังก์ชันบิ้วท์อินบนกระเป๋าเงิน Argent ได้โดยตรงอีกด้วย
การที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลระบบได้ง่ายขึ้นเช่นนี้ ย่อมส่งผลให้เน็ตเวิร์กของ Ethereum มีการกระจายศูนย์ (Decentralized) และปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งราคาและการเปิดรับเทคโนโลยีของ Ethereum ในอนาคตอย่างแน่นอน
อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่นี่: ETH2 Staking on Argent
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ยอดผู้ใช้งาน Crypto Wallet บนแอปฯ Kakao ทะลุหนึ่งแสนรายภายในวันเดียว
