- รัฐบาลกรุงปักกิ่งยื่นสารท้ารบคริปโตเพื่อแสดงให้เห็นชัดเจนว่าจนจะไม่ทนต่อการทำธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีใด ๆ อีกต่อไปไม่ว่าคริปโตเหล่านี้จะไม่มีพิษภัยเพียงใดก็ตาม
- การเคลื่อนไหวแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีนตั้งใจที่จะโจมตี “ปัญหาคริปโตเคอร์เรนซี” จากทุกแง่มุม ตั้งแต่การบังคับใช้กฎหมายไปจนถึงการตรวจสอบปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต
การที่จีนมีพื้นที่ไว้สำหรับจัดการคริปโตเคอร์เรนซีเสมอนั้นไม่ใช่ความลับที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่ประสิทธิภาพของบังคับใช้มาตรการนั้นกลับมีความชัดเจนน้อยกว่าเสมอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 กันยายน) รัฐบาลได้เขวี้ยงถุงมือยื่นคำท้าเพื่อแสดงให้ชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้มีการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลอีกต่อไป ไม่ว่าจะไม่มีพิษภัยเพียงใด
ส่งผลให้ Huobi แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน ได้หยุดให้ผู้ใช้ใหม่ลงทะเบียนบัญชีของตนด้วยหมายเลขโทรศัพท์จากประเทศจีนเกือบจะในทันที
แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่า คริปโตเคอร์เรนซีถูกห้ามจากประเทศจีนมาระยะหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปในปี 2017 รัฐบาลกรุงปักกิ่งได้สั่งห้ามการเสนอเหรียญเริ่มต้นหรือ initial coin offerings (ICO) จากนั้นจึงทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล และในปีนี้ได้ปราบปรามกลุ่มอุตสาหกรรมการขุดคริปโตเคอร์เรนซีขนาดใหญ่
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน หรือ ธนาคารกลางของจีน (PBOC) พร้อมด้วยสถาบันรัฐบาลอีก 9 แห่ง รวมถึงศาลฎีกาของจีน สำนักงานตำรวจ ตลอดจนหน่วยงานกำกับดูแลด้านอินเทอร์เน็ตและหลักทรัพย์ ได้เผยแพร่ข้อความที่ห้ามการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด
การเคลื่อนไหวดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าจีนตั้งใจที่จะโจมตี “ปัญหาคริปโตเคอเรนซี” จากทุกมุม ตั้งแต่การบังคับใช้กฎหมายไปจนถึงการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
ขณะเดียวกัน ทางการจีนยังปิดช่องโหว่ที่มีมายาวนานซึ่งทำให้ชาวจีนสามารถรักษาบัญชีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลกับแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนนอกชายฝั่ง เช่น Huobi และห้ามไม่ให้แพลตฟอร์มดำเนินการจ้างงานในท้องถิ่นสำหรับบทบาทต่างๆ รวมถึงการตลาด เทคโนโลยี และการชำระเงิน ทั้งหมดนี้เพื่อพยายามขัดขวางการเข้าถึงลูกค้าชาวจีน
ในขณะที่ ราคาคริปโตเคอร์เรนซีร่วงลงเกือบจะในทันทีหลังจากการประกาศ ราคาในตลาดก็กลับดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หักลบการสูญเสียส่วนใหญ่ในวันจันทร์ในการซื้อขายในตลาดเอเชีย
เทรดเดอร์บางรายเห็นว่าการห้ามโดยครอบคลุมโดยทางการจีนเกี่ยวกับ cryptocurrencies จะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจของประเภทสินทรัพย์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเท่านั้น ท้ายที่สุด สิ่งต้องห้ามมักเป็นที่ต้องการมากที่สุด
และการปราบปรามคริปโตเคอร์เรนซีของจีนยังเกิดขึ้นกับฉากหลังของการจำกัดเสรีภาพที่กว้างขึ้นในราชอาณาจักรกลาง ตั้งแต่วิดีโอเกมไปจนถึงการศึกษาหลังเลิกเรียน ชาวจีนหลายล้านคนถูกกวาดล้างในการทดลองทางสังคมที่ครอบคลุมมากที่สุดซึ่งจัดขึ้นโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่ การปฏิวัติวัฒนธรรม
ทั้งนี้ มาตรการกวาดล้างของปักกิ่งอาจเกลี้ยกล่อมผู้ที่มีแนวคิดเสรีนิยมมากกว่า หากพวกเขาลังเลที่จะย้ายทรัพย์สินที่สำคัญของพวกเขาออกนอกชายฝั่ง อย่างน้อยก็ถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว และวิธีใดที่จะดีไปกว่าการสร้างความมั่งคั่งทางจิตวิญญาณในต่างประเทศมากกว่าผ่านคริปโตเคอร์เรนซี
