fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

ธนาคารกลางอังกฤษเตือน! สกุลเงินดิจิทัลอาจส่งผลกระทบต่อระบบสินเชื่อของธนาคาร

เมื่อช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา คณะผู้ร่างกฎหมายในอังกฤษได้จัดประเภทสกุลเงินดิจิทัลเป็นทรัพย์สินอย่างถูกต้องตามกฏหมายของประเทศอังกฤษ เนื่องจากรัฐบาลเริ่มมองเห็นประโยชน์จากการใช้งานของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน 

นอกจากนี้โปรเจกต์ Libra ของ Facebook ที่กำลังเผชิญกับปัญหาทางข้อกฎหมายมากมาย ทำให้ยังไม่สามารถเริ่มใช้งานได้ โดยทางธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ได้ออกกฎให้ Libra และผู้ให้บริการการชำระเงินสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ต้องเข้ามาประชุมก่อนที่จะอนุญาตให้เปิดให้บริการในอังกฤษได้ อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ มองว่า เหรียญ Libra จะมีศักยภาพในการเป็นระบบการชำระเงินที่สำคัญในอนาคต

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานาย Jon Cuncliffe รองผู้ว่าการของธนาคารกลางของอังกฤษ (Bank of England: BoE) ได้กล่าวที่ London School of Economics ว่าการเติบโตขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี่ จะส่งผลกระทบต่อธนาคารโดยอาจทำให้การออกเครดิตหรือสินเชื่อไม่มีประสิทธิภาพหรือถูกทำลายลงไป 

โดย Stablecoins ที่ใช้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนั้นอาจส่งผลให้ผู้คนย้ายเงินที่พวกเขาเคยเก็บไว้ในธนาคารเข้ามาเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน Stablecoin แทน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับว่า Stablecoins นั้น ๆ ถูกสำรองด้วยสินทรัพย์อื่น ๆ ในรูปแบบใดบ้าง โดยมันอาจจะส่งผลทำให้การจัดหาสินเชื่อของระบบธนาคารอ่อนแอลงหรือหายไปได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจได้ในที่สุด

นาย Cincliffe ยังกล่าวด้วยว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นกลายเป็นประเด็นคำถามที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบการเงินของอังกฤษ โดยรัฐบาล หน่วยงานกำกับดูแล และธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะต้องเป็นผู้หาแนวทางคำตอบที่ชัดเจน โดยเขาได้เรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลและเหล่าธนาคารกลางเตรียมความพร้อมสำหรับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากการมาของสกุลเงินดิจิทัล ก่อนที่มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบจนกลายเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข

ทางด้านเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ยอมรับว่าระบบการเงินในปัจจุบันนั้นยังคงล้าหลังในการทำบัญชีและการออกสินเชื่อของธนาคาร ขณะที่การใช้งาน Stablecoin นั้นดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์มากมาย ทั้งการลดต้นทุนการชำระเงิน โดยเฉพาะในด้านการชำระเงินระหว่างประเทศ และการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน

อย่างไรก็ตาม Cincliffe ยืนยันว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยงที่อาจมาพร้อมกับการมาของ Stablecoins ก่อนที่พวกมันจะเข้ามามีความสำคัญในระบบ อีกทั้งยังได้เตือนว่า ด้วยขนาดและความสามารถของ Facebook นั้นทำให้ Libra มีศักยภาพในการที่จะถูกยอมรับในวงกว้าง และสามารถกลายมาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในระบบการเงินได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ เขายังให้ข้อมูลว่า คณะกรรมการความมั่นคงทางการเงิน (Financial Stability Board: FSB) จะออกรายงานการตรวจสอบ “คำแนะนำด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวกับ Stablecoins” ในปีนี้

โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานาย Randal K. Quarles ประธานของ FSB กล่าวว่า องค์กรกำลังทำการทบทวนกรอบการประเมินช่องโหว่ในระบบการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าการประเมินความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินที่จะต้องมีความทันสมัยมากที่สุด

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: สตาร์ทอัพจากอังกฤษใช้บล็อกเชนช่วยเกษตรกรชาวเฮติได้อย่างไร?

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN