fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

ธนาคารกับการธนาคารบนบิทคอยน์ที่ปราศจากความผันผวน 

bitcoin price volatility

 

  • ความผันผวนของบิทคอยน์เริ่มลดลง แม้ว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้นซึ่งบ่งบอกถึงระดับการมีส่วนร่วมของสถาบันที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
  • ในขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงสกุลเงินดิจิทัล แต่ธนาคารอื่น ๆ กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากลูกค้าในการให้บริการระดับสถาบันที่จำเป็นต่อการสนับสนุนการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

 

ต้องยอมรับว่า บิทคอยน์ มีชื่อเสียงค่อนข้างฉาวโฉ่ในเรื่องของความผันผวน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มั่นไม่เหมาะสำหรับการรวมอยู่ในสินทรัพย์เพื่อการลงทุน 

จนกระทั่งถึงตอนนี้ 

ทั้งนี้ อ้างอิงจาก JPMorgan Chase (+0.97%) ความผันผวนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของบิทคอยน์ได้ลดลงมาอยู่ที่ 86% จากระดับที่พุ่งขึ้นไปถึงระดับสูงสุดตลอดกาลที่กว่า 90% ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 

ด้านความผันผวนของบิทคอยน์ในรอบ 6 เดือนยังดูเหมือนจะคงที่ที่ราว 73% รวมถึงขยับปรับลดลง สภาพการณ์นี้ทำให้ JPMorgan Chase แนะนำว่า บรรดานักลงทุนสถาบันจำนวนมากสามารถอุ่นเครื่องกับพื้นที่ คริปโตเคอร์เรนซีและอาจปูทางเพื่อให้ Bitcoin ETF เข้าจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาได้ในที่สุด 

หนึ่งในเหตุผลที่ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกานำมาอ้างอิงในการปฏิเสธ Bitcoin ETF ในตอนนี้ก็คือ การที่สินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวมีความผันผวนในระดับสูง และยิ่งสินทรัพย์มีความผันผวนสูงมากเท่าไร ก็ยิ่งมีการใช้เงินทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งเหตุนี้ยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บรรดาธนาคารขนาดใหญ่ทั้งหลายในสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้การเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง

แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือเมื่อนักลงทุนที่ร่ำรวยได้เจาะลึกในพื้นที่ของสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น พวกเขาได้กดดันธนาคารที่ให้บริการพวกเขาให้เปิดบริการด้านสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ธนาคารบางแห่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดในตลาดวอลล์สตรีทกำลังค่อยๆ เปิดรับกับแนวคิดนี้

ขณะที่ Goldman Sachs (+0.20%) เผยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าใกล้จะนำเสนอเครื่องมือการลงทุนบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลให้กับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ขณะที่ Morgan Stanley (+ 0.72%) วางแผนที่จะให้ลูกค้ากระเป๋าหนักเข้าถึงกองทุน 3 ตัวซึ่งจะช่วยให้สามารถเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลได้

ด้าน Bank of New York Mellon (+0.38%) กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน แต่ไม่มีธนาคารที่ใหญ่ที่สุด อย่าง Citigroup (+ 0.54%), Wells Fargo (+ 1.46%) หรือ Bank of America (+ 2.07%) ที่ให้การเข้าถึง Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ โดยตรง

ส่วน Julius Baer (+2.15%) ธนาคารสัญชาติสวิส ได้เริ่มให้บริการซื้อขายและบริการดูแลสำหรับสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ในขณะที่ Bordier & Cie ธนาคารเอกชนของสวิสได้เริ่มทำการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม

ในสิงคโปร์ ธนาคาร DBS Group Holdings (+0.69%) เพิ่งเริ่มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองซึ่งอนุญาตให้นักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจากธนาคารเอกชนสามารถลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลหลัก ๆ ควบคู่กับการให้บริการผู้ดูแลทรัพย์สินสำหรับพวกเขา

แต่ถึงแม้จะมีนักลงทุนสถาบันเข้ามามีส่วนร่วมในบิทคอยน์มากขึ้นความผันผวนที่มีอยู่ในสกุลเงินดิจิทัลก็ยังคงมีอยู่และยังคงสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ อย่างมาก

ในฐานะที่เป็นทรัพย์สินที่ไม่มีการควบคุมโดยไม่ยึดติดกับสิทธิทางกฎหมายแบบดั้งเดิมทางกายภาพหรือที่ได้รับการยอมรับทั่วไปมูลค่าของบิทคอยน์ จะยังคงอยู่ในความดูแลของผู้ถือครอง หรือ behodlers (ตั้งใจให้สะกดผิด) 

แต่กระนั้นความสนใจที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากความอยากรู้อยากเห็นอาจเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่าง

ทั้งนี้ Coinbase บริษัท แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกามีกำหนดเปิดตัวในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในเดือนนี้ และฝ่ายต้อนรับจะแสดงหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มสินทรัพย์ที่ตั้งขึ้นใหม่แบบกระจายอำนาจ

 

PATRICK TAN – SCN CONTRIBUTOR

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) แห่ง Novum Alpha บริษัทซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในทุกสภาพอากาศที่ใช้เครื่องมือ Deep Learning เพื่อสร้างผลตอบแทนในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ทุกเงื่อนไขของตลาด  

 

 

 

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN