fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

นักลงทุนสถาบันเลือกบิทคอยน์มากกว่าทองเผชิญเงินเฟ้อพุ่ง

ราคาของ Bitcoin (BTC) ปรับตัวขึ้น 15.09% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ณ วันที่เขียน ซึ่งเกินแนวต้านที่ 50,000 เหรียญสหรัฐ และทำให้มูลค่าตลาดกลับมาอยู่ที่ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บิทคอยน์ สกุลเงินดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 54,848 เหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนได้แสดงความเห็นผ่านโน้ตที่ส่งตรงถึงลูกค้าของธนาคารอธิบายว่าการเพิ่มขึ้นของบิทคอยน์เมื่อไม่นานมานี้มีสาเหตุหลักๆ มาจากการที่นักลงทุนสถาบันแห่เข้าซื้อคริปโตเคอร์เรนซีดังกล่าวเพื่อใช้เป็นแนวป้องกันอัตราเงินเฟ้อ

บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่าเหล่านักลงทุนได้เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการลงทุนในบิทคอยน์อีกครั้งหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น ด้วยเห็นว่าสินทรัพย์คริปโตเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ใช้รับมือกับภาวะเงินเฟ้อได้ดีกว่าทองคำ

นอกจากบรรดานักลงทุนสถาบันแล้ว บิทคอยน์ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนชั้นนำในตลาด รวมถึง เควิน โอ’เลียรี มหาเศรษฐีนักลงทุนที่ได้ออกมาประกาศว่าพอร์ทของตนมีคริปโตในสัดส่วนที่มากกว่าทองคำแล้ว ขณะเดียวกัน บิทคอยน์ยังได้แรงหนุนจากประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์ ประเทศแรกในโลกที่รับรองให้คริปโตเป็นสกุลเงินถูกกฎหมายของประเทศอย่างเป็นทางการ หลังประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล ทวิตเผยว่าประชาชนซื้อบิทคอยน์มาเก็บออมแทนการนำมาใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ได้ตั้งข้อสังเกตว่านักลงทุนรายใหญ่กำลังเปลี่ยนบิทคอยน์เป็นทองคำแทน แล้ว เหตุใดนักลงทุนจึงทำตรงกันข้ามในตอนนี้?

งานนี้ เจพีมอร์แกนเชื่อว่ามีสาเหตุ 2 ประการที่อยู่เบื้องหลังราคาบิทคอยน์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคือการที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ ที่ประกาศว่าไม่มีแผนที่จะห้ามการใช้คริปโตและการขุดเหมือนที่รัฐบาลจีนทำ

นอกจากนั้น เจพีมอร์แกนยังกล่าวถึงการขยับปรับเพิ่มขึ้นของราคาเมื่อเร็ว ๆ นี้ของเครือข่าย Lightning และการชำระเงินเลเยอร์ที่ 2 ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากการนโยบายของเอลซัลวาดอร์ที่นำบิทคอยน์มาใช้

 

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN