fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

BitMEX ร่อแร่! ผู้ใช้จำนวนมากหนีไปเว็บคู่แข่งและวอลุ่ม Futures ยังลดลงต่อเนื่อง

เว็บเทรดตราสารอนุพันธ์คริปโตชื่อดัง BitMEX ยังอยู่ในอาการร่อแร่หลังโดนสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐฯดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและให้บริการลูกค้าในสหรัฐอเมริกาโดยไม่มีใบอนุญาต

ล่าสุด แม้ BitMEX จะออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาและชี้ว่าการดำเนินคดีของทางรัฐบาลสหรัฐฯนั้นไม่เป็นธรรม แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีความคืบหน้าไปในทางบวกแต่อย่างไร

ในด้านของนักลงทุนนั้นดูเหมือนกำลังสละเรือและทยอยถอนบิทคอยน์ (BTC) ออกจาก BitMEX อย่างต่อเนื่องทำให้จำนวนบิทคอยน์ที่ BitMEX ดูแลอยู่เหลือเพียงแค่ 120,000 BTC เท่านั้น ปรับตัวลดลงไป 27% ภายในสามวัน

ข้อมูลจาก Glassnode

ขณะที่การถอนบิทคอยน์ครั้งใหญ่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีบิทคอยน์กว่า 44,000 BTC ถูกถอนออกไปในวันเดียว โดยกว่า 1 ใน 3 ของบิทคอยน์ที่ถูกถอนออกไปนั้นไหลไปอยู่ในเว็บคู่แข่งอย่าง Gemini และ Binance

ข้อมูลจาก Glassnode

นอกจากนี้จำนวน Open Interest ของสัญญาฟิวเจอร์สบน BitMEX นั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง ร่วงลงถึง 24% จากระดับ 590 ล้านดอลลาร์ลงมาเหลือ 450 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมของปี 2020 และยังมีทีท่าจะลดลงต่อไปเรื่อย ๆ

ข้อมูลจาก Glassnode

ทั้งนี้ BitMEX แม้จะเป็นแพลตฟอร์มที่อยู่คู่ชาวคริปโตมานานตั้งแต่ปี 2014 แต่ความเชื่อมั่นกลับลดลงเรื่อย ๆ จากหลายเหตุการณ์ที่ทำให้นักลงทุนต้องเสียอารมณ์และตั้งข้อกังขาถึงความโปร่งใสของ BitMEX ไม่ว่าจะเป็นการที่ราคาบนแพลตฟอร์มมักเกิดการร่วงลงอย่างรวดเร็วแบบไม่มีปี่มีขลุยหรือ Flash Crash ที่ทำให้นักลงทุนจำนวนมากต้องถูกบังคับปิดสถานะ หรือล่าสุดในช่วงการเทขายอย่างหนักในเดือนมีนาคม เว็บไซต์ BitMEX ก็เกิดการล่มแบบพอเหมาะพอเจาะ ทำให้นักลงทุนไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงหรือปิดสถานะของตนเองได้ ส่งผลให้หลาย ๆ คนต้องเสียเงินจำนวนมากจากความผิดพลาดเหล่านี้

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ตลาดคริปโตสะอึก หลัง BitMEX โดน CFCT สหรัฐฯเล่นงาน

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN