fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

มูลค่าตลาด USDT พุ่งทะลุ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

 

มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัล USDT พุ่งทะลุ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมขึ้นแท่นเป็นstablecoinที่แอ็คทีฟที่สุดในห้วงเวลานี้ 

รายงานระบุว่า USDT หรือ USD Tether เป็นstablecoinที่มีการซื้อขายมากที่สุดในวันนี้ โดยปริมาณการซื้อขายช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาของ USDT อยู่ในระดับสูงกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าคู่แข่งในตลาดอย่าง USDC ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายต่อวันที่ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น 

ความเคลื่อนไหวข้างต้นส่งผลให้ USDT ได้สร้างประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำบทใหม่ขึ้นในวันนี้ 

โดย Tether Operations Limited ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มบล็อกเชนที่หนุนUSDT อันเป็นstablecoinที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อวัดจากมูลค่าตลาด ได้ออกมาประกาศในวันนี้ว่า Tether tokens (USDt) ได้พุ่งทะลุมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เรียบร้อยแล้ว

ในฐานะ stablecoin ที่มีเสถียรภาพ สภาพคล่องและนวัตกรรมอยู่ในระดับขั้นสุดของวงการ ถือได้ว่า USDt มีความโดดเด่น ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของโทเค็นดิจิทัล ทำให้ปัจจุบันการแลกเปลี่ยนโทเค็นดิจิทัลจำนวนมากจะเปลี่ยนคู่สกุลเงินมาจับคู่กับเป็น USDt แทนที่จะเป็นบิตคอยน์ (BTC)

นอกจากนี้ ยังมีการใช้งาน USDt ในการส่งเงินและในโครงการนวัตกรรมด้านระบบนิเวศของโทเคนดิจิทัล รวมถึงพื้นที่เกิดใหม่ของ decentralised finance (DeFi) มากขึ้นด้วย 

Paolo Ardoino ผู้ดำรงตำแหน่ง CTO ของ Tether กล่าวว่า การเติบโตของ Tether ที่ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้แสดงให้เห็นว่า ดิจิทัล โทเคน ตัวนี้กำลังมา และเริ่มเป็นที่ชัดเจนว่า ชุมชนเทรดเดอร์ของเราและนักพัฒนาต่างชอบใช้งาน คริปโตที่มีสภาพคล่องดี มีเสถียรภาพและได้รับความนิยม ซึ่งตัว Tether เองก็มีบทบาทสำคัญในการการทำให้ระบบนิเวศนี้เบ่งบานมากขึ้น 

ทั้งนี้ USDt ทำงานบนระบบบล็อกเชนที่ค่อนข้างหลากหลายเช่น Algorand, Bitcoin Cash’s Simple Ledger Protocol (SLP), Ethereum, EOS, Liquid Network, Omni และ Tron โดย Tether ได้รับการผลักดันเพื่อใช้สนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถในการลงทุนและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่บล็อกเชน

 

 

 

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN