เรียนรู้เกี่ยวกับดัชนี SCN30 เพิ่มเติมได้ที่นี่
บิทคอยน์ยังคงผันผวนโดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน จากสถานการณ์ที่ยังคงไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคดวิด-19 ยังคงตามหลอกหลอนภาคเศรษฐกิจหลังจากที่หลายเมืองในสหรัฐฯทดลองเปิดเมืองแต่ก็ต้องปิดตัวลงใหม่หลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ดัชนี SCN30 แม้จะทำได้ค่อนข้างดีในเดือนมิถุนายน แต่ล่าสุดเมื่อสองวันที่แล้วดัชนีปรับตัวลดลงไปแตะ 145 จุดซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบเดือนก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ 148.17 จุด โดยค่าดัชนีนั้นสอดคล้องกับราคาของ Ethereum (ETH) ที่ปรับตัวลงมาแตะจุดต่ำสุดของเดือนที่ 218.51 ดอลลาร์ เนื่องจาก ETH นั้นถือเป็นผู้เล่นใหญ่สุดในดัชนี SCN30 นั่นเอง
ความกลัวกลับเข้ามาปกคลุม ETH อีกครั้งแม้ในช่วงที่ผ่านมาราคาจะปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องรับการมาของ ETH 2.0 อัพเกรดก็ตาม โดยมีข่าวแง่ลบออกมามากมายทั้งเรื่องแชร์ลูกโซ่ Plus Token ที่คนร้ายพึ่งทำการย้าย ETH ที่ขโมยมามูลค่าหลายล้านดอลลาร์ และค่าธรรมเนียมของ Ethereum ก็ได้ปรับตัวสูงขึ้นจากการที่นักขุดพยายามสแปมระบบ โดยเราคาดว่าจะได้เห็นทิศทางราคาที่ชัดเจนขึ้นของทั้ง Bitcoin และ Ethereum ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
เรียนรู้เกี่ยวกับดัชนี SCN30 เพิ่มเติมได้ที่นี่
และสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นสัปดาห์แรกที่ไม่มีอันดับของผู้เล่นบนดัชนี SCN30 ขยับเลย โดยเหรียญสิบอันดับแรกต่างติดลบเล็กน้อยในช่วงวันนี้โดยมี Cosmos (ATOM) -1.09% และ Bitcoin SV (BSV) -1.05% ทำผลงานได้แย่ที่สุดในรอบวัน ขณะที่ HedgeTrade (HEDGE) ทำผลงานได้ดีที่สุด ราคาบวกขึ้นมา 4.54% ในวันนี้
เทรนด์ DeFi กำลังมาแรง
ท่ามกลางเหล่า Altcoins ต่าง ๆ ที่มีอยู่นับพันเหรียญ ในช่วงนี้มีบางโปรเจกต์ที่มีพัฒนาการด้านราคาที่โดดเด่นกว่าเหรียญอื่น ๆ อย่างมาก เช่น Basic Attention Token (BAT) มีความคึกคักเป็นพิเศษในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยได้อานิสงค์จากกระแส Decentralized Finance (DeFi) และการทำ Yield Farming ที่เปิดให้ผู้ใช้ล็อกเหรียญไว้บน Smart Contracts เพื่อการกู้ยืมและเสนอผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย โดยมีรายงานว่าบางโปรเจกต์เสนอผลตอบแทนมากกว่า 100% ต่อปีเลยทีเดียว
ขณะที่โทเคนใช้สำหรับการสร้างและควบคุมระบบ DeFi อย่าง Kyber Network (KNC) และ MakerDao (MKR) ก็ต่างทำผลงานได้ดีกว่าบิทคอยน์ โดยเฉพาะน้องใหม่มาแรงอย่าง Compound (COMP) ที่กลายมาเป็นเหรียญ DeFi ที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดในโลกหลังเปิดเทรดได้เพียงวันเดียว
อย่างไรก็ตาม กระแสการทำ Yield Farming นั้นถือว่ามีความเสี่ยงสูงจากทั้งความไม่แน่นอนและบักใน Smart Contracts ทั้งหลาย ๆ เจ้ายังเสนอให้ผลตอบแทนสูงเกินความเป็นจริงและเสี่ยงต่อการถูกหลอกได้ ผู้ลงทุนควรศึกษาด้วยตนเองก่อนการลงทุนทุกครั้ง และมีสติอย่าหลงไปกับความโลภและคำชวนเชื่อเป็นอันขาด
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: วิธีเอาตัวรอดในภาวะตลาดจิงโจ้ เมื่อตลาดไร้ทิศทาง
