เงินทุนจำนวนกว่า 850 ล้านดอลลาร์ของ Bitfinex และนักลงทุนหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไรเมื่อเดือนเมษายนปี 2019 นี่คือคำถามที่อัยการสหรัฐฯพยายามค้นหาคำตอบ และยังกล่าวหา Bitfinex อีกด้วยว่าพยายามกลบเกลื่อนโดยการพิมพ์ Tether (USDT) ซึ่งเป็น Stablecoin ของทางบริษัทมาทดแทนเงินก้อนที่หายไป
โดยก่อนหน้านี้ทาง Bitfinex ได้โต้แย้งว่าทางบริษัทฯไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของรัฐนิวยอร์ก ทางอัยการของนิวยอร์กจึงไม่มีอำนาจร้องขอดูเอกสารและรายการการทำธุรกรรมของบริษัท และยังแย้งอีกด้วยว่าทางศาลไม่มีอำนาจในการตัดสินข้อพิพาทใด ๆ เกี่ยวกับ Stablecoin เนื่องจากมันไม่ได้อยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายใด ๆ อ้างอิงจาก Bloomberg
หลังจากยื้ดยุดกันอยู่นานนับปี ดูเหมือนว่าคำโต้แย้งของทาง Bitfinex จะถูกศาลปัดตกไป โดยอัยการรัฐนิวยอร์ก Letitia James ได้กล่าวถึงคำตัดสินว่า
“การตัดสินของศาลวันนี้แสดงให้เห็นว่าศาลต้องการจะใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ในการดูแลปกป้องพลเมืองชาวนิวยอร์ก แม้แต่เงินดิจิทัลก็ไม่สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ ทางเราพึงพอใจกับการตัดสินของศาลเป็นอย่างยิ่ง และเราจะเดินหน้าต่อไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนในตลาด”
ทาง Bitfinex เคยอ้างว่า เงินทุนก้อนที่หายไปนั้นอยู่ที่บริษัท Crypto Capital Corp ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศปานามา ก่อนที่จะถูกทางการจากหลายประเทศยึดไป แม้จะไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากนัก แต่ Bitfinex ชี้แจงว่าทางบริษัทฯกำลังอยู่ในขั้นตอนติดตามเงินทุนก้อนนี้คืนมาอยู่
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: เอาเรื่อง! ทหารเวเนซูเอลาบุกยึดเครื่องขุดบิทคอยน์กว่า 300 เครื่อง
