สำนักงาน ก.ล.ต. ประเทศไทย มีแผนที่จะแก้ไขพระราชกฤษฎีกาธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล ในปีหน้า เพื่อเป็นการผลักดันส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเติบโตและป้องกันความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากช่องว่างทางกฎหมาย
รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. ได้ยื่นคำขอเกี่ยวกับการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาที่อาจกีดกันการเติบโตของอุตสาหกรรม สินทรัพย์ดิจิตอล โดยกล่าวว่า
“อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิตอลผู้ควบคุมกฎหมายจำเป็นต้องมีความเข้าใจมีความยืดหยุ่นในการใช้กฎและข้อบังคับให้สอดคล้องกับสภาพปัจจัยต่างๆของตลาดโดยที่ข้อกฎหมายจะต้องป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่างๆและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดรวมทั้งปรับปรุงและพัฒนาให้เท่าทันตลาดโลก”
พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 มีใบอนุญาตธุรกิจสี่ประเภท ได้แก่ ศูนย์กลางซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลหรือ Exchange, นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลหรือ Broker,ตัวแทนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลหรือ Dealer
รวมถึงที่ปรึกษาการออกโทเคนดิจิตอลหรือ ICO Portal ซึ่งมีผู้ได้รับใบอนุญาตสามรายที่สามารถประกอบธุรกิจได้นั่นคือ SEDigital,T-Box และ Longroot เท่ากับว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเปิดการระดมทุนแบบ ICO ภายใต้กฎหมายรับรองแล้ว อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้ยังไม่มีการเสนอขายโทเคนดิจิทัลอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ วงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กำลังรอให้การเสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือ ICO กลุ่มแรกประสบความสำเร็จในการระดมทุนเพื่อจุดประกายให้วงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทยกลับมาได้รับความสนใจจากคนทั่วไปอีกครั้งหลังเป็นกระแสโด่งดังในปี 2017
รวมถึงคาดหวังว่าจะได้รับการส่งเสริมทางด้านภาษี เนื่องจากปัจจุบันผู้ที่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% รวมถึงเสียภาษีจากกำไร Capital Gain อีก 15%
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ตลาดเงินดิจิตอลไทยถึงจุดเปลี่ยนของการฟื้นตัว??
เอสอี ดิจิทัล เตรียมเสนอขาย Investment Token มูลค่า 3,000 ล้านบาท
