- จากการจัดอันดับใหม่ตามข้อมูล LinkedIn พบว่า 53% ของงานคริปโตทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา กระจายไปทั่วเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ
- การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ราคาคริปโตเคอเรนซีพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลก็เบ่งบาน ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของงานปกขาวที่สามารถทำได้จากทุกที่ในโลก
แม้ว่าการว่างงานในสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ภาคส่วนที่มีการจ้างงานอย่างบ้าคลั่งกลับกลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล
หน้าที่การงานในอุตสาหกรรมคริปโต ไล่เรียงตั้งแต่สิงคโปร์ไปยังซานฟรานซิสโกมีมากมาย แถมยังเต็มอย่างรวดเร็วในทันทีที่มีผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมปรากฏตัวออกมา
และเช่นเดียวกับการกระจายอำนาจของบล็อคเชน งานคริปโตมีอยู่ทุกหนทุกแห่งอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ จากการจัดอันดับใหม่ตามข้อมูล LinkedIn พบว่า 53% ของงานคริปโตทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา กระจายไปทั่วเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ
แตกต่างจากอุตสาหกรรมการเงินหรือเทคโนโลยีซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในเมืองหลักๆ เช่น นิวยอร์กและซานฟรานซิสโก ตัวตนของการกระจายอำนาจได้เห็นผู้ประกอบการคริปโตปฏิเสธขอบเขตดั้งเดิมหรือภูมิศาสตร์
แม้แต่ผู้ก่อตั้ง Binance บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง Changpeng Zhao หรือ CZ ซึ่งไม่ได้ยึดติดกับสถานที่ใดโดยเฉพาะ แม้จะอาศัยอยู่ที่สิงคโปร์ในฐานะบ้านก็ตาม
แม้ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามปริมาณการซื้อขาย แต่ Binance ได้หลีกเลี่ยงสำนักงานใหญ่ของบริษัทและมีพนักงานจากทั่วโลก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลรอบ Binance และต้องการโครงสร้างองค์กรบางอย่างที่การแลกเปลี่ยนควรดำเนินการ
การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ราคาคริปโตเคอเรนซีพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลก็เบ่งบาน ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของงานปกขาวที่สามารถทำได้จากทุกที่ในโลก
บริษัทในแวดวงคริปโตได้รวบรวมความเป็นตัวตนของการกระจายอำนาจมาอย่างยาวนาน และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งทีมจะมีสมาชิกเป็นรายบุคคลกระจายอยู่ทั่วโลก
เครื่องมือสื่อสารที่ได้รับการปรับปรุง เช่น Slack และ Discord รวมถึงเครื่องมือการทำงานร่วมกันของซอฟต์แวร์ ทั้งหมดนี้ทำให้พนักงานต้องอยู่ห่างไกลกันได้ง่ายขึ้น และนั่นก็ช่วยให้สตาร์ทอัพจำนวนมากโดยเฉพาะบริษัทคริปโตสามารถปรับขนาดได้อย่างคุ้มค่า
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเศรษฐกิจคริปโต หมายความว่าภาษีที่ต่ำกว่า โครงสร้างพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม และการเชื่อมต่อระหว่างกันที่ดีกับฮับอื่น ๆ จะได้รับประโยชน์จากการทำงานระยะไกลอย่างเต็มที่
เมืองต่างๆ เช่น สิงคโปร์กำลังเกาะติดอยู่กับกระแสคริปโต โดย Ravi Menon ผู้อำนวยการของธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore – MAS) ได้เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าศูนย์กลางทางการเงินตั้งใจที่จะวางตำแหน่งตัวเองเป็นเมืองหลวงของสกุลเงินดิจิทัล
ในขณะเดียวกัน การปราบปรามการขุดคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศจีน ได้เห็นกิจกรรมดังกล่าวย้ายไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยกลุ่มใหญ่มุ่งหน้าไปยังสหรัฐอเมริกาเช่นเวอร์จิเนียและเท็กซัส
