fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

เทียบฟอร์ม “บิทคอยน์” กับ “ทองคำ” ใครจะรุ่งและใครจะร่วง?

ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำรวมถึงบิทคอยน์อย่างชัดเจน โดยดัชนี Dollar Index (DXY) มีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องไปแตะระดับ 94 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2.36% นับตั้งแต่อ่อนค่าลงไปต่ำสุดที่ระดับ 91.68 จุดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ล่าสุด Dollar Index สามารถยืนเหนือเส้น EMA50 วันได้สำเร็จ ต้องติดตามต่อไปว่าค่าเงินดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันราคาทองคำและบิทคอยน์ให้ร่วงลงต่อไป

ขณะที่บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟส 3 แล้ว โดยจะมีอาสาสมัครเข้าร่วมในโครงการมากถึง 60,000 ราย ซึ่งแม้นี่จะเป็นข่าวดีของมนุษยชาติ แต่กลับส่งผลกระทบด้านลบต่อสินทรัพย์ประเภท Safe Haven อย่างทองคำ

ทองคำ ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) อยู่ที่ 23.13% ขณะที่ผลตอบแทนในรอบหนึ่งเดือนอยุ่ที่ -4.64% และผลตอบแทนในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ -4.86% ขณะที่บิทคอยน์ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีที่ 43% ส่วนผลตอบแทนในรอบเดือน -8.52% และรอบสัปดาห์ที่ -5.71%

หากเทียบที่ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีบิทคอยน์ยังทำได้ดีกว่าทองคำ แต่ในระยะสั้นนั้นบิทคอยน์ถูกเทขายออกมารุนแรงกว่า

วิเคราะห์ทางเทคนิคบิทคอยน์ (BTC)

กราฟเทคนิคของบิทคอยน์ (BTC) ตั้งแต่ต้นปี จะเห็นว่าการที่ราคาหลุดระดับ 10,500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมที่สามารถ Breakout ขึ้นมาได้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนั้น ถือว่าแนวโน้มไม่สู้ดีนัก แม้หลังจากการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในวัน Black Thursday เมื่อเดือนมีนาคมจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นมาแนวโน้มของบิทคอยน์ได้กลายเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์

ระยะสั้นบิทคอยน์ยังมีแนวรับที่ 9,900 ดอลลาร์ หากหลุดจากระดับนี้บิทคอยน์มีโอกาสที่จะพลิกกลับเป็นขาลง แต่หากสามารถรับอยู่กรอบได้ การเคลื่อนไหวของบิทคอยน์จะอยู่ที่ 9,900-12,500 ดอลลาร์ แต่ต้องระวังหากบิทคอยน์ยังคงทำ Lower Low อย่างต่อเนื่อง อาจสูญเสียกำลังและทำให้แนวโน้มระยะสั้นอาจจะพลิกเป็นขาลง

วิเคราะห์ทางเทคนิค ทองคำ

ขณะที่ราคาทองคำมีรูปแบบที่คล้ายกับบิทคอยน์ก็คือตั้งแต่ฟื้นจากจุดต่ำสุดในวัน Black Thursday ราคาก็มีแนวโน้มขาขึ้นมาตลอดจนกระทั่งเดือนสิงหาคมเริ่มเคลื่อนตัวออกไซด์เวย์และทำ Lower Low มาอย่างต่อเนื่อง จนแนวโน้มพลิกกลับเป็นขาลงและเกิด Death Cross เส้น EMA ระยะสั้นตัดลงมาอยู่ใต้เส้นระยะยาว

แนวรับถัดไปของทองคำอยู่ที่ 1,841 ดอลลาร์ หากรับไม่อยู่อาจลงได้ถึงระดับ 1,767 ดอลลาร์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถทำ Higher High ไดในเร็ววันนี้ แนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาลงต่อเนื่อง

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ทองคำร่วงหนักทะลุแนวรับสำคัญ บิทคอยน์จะเป็นรายต่อไปหรือไม่?

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN