fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

เหล่าอภิมหาเศรษฐีเข้าช้อนซื้อคริปโตหรือไม่?

 

  • การสำรวจบรรดาธุรกิจครอบครัวโดย Goldman Sachs เปิดเผยว่า กิจการกลุ่มนี้มากถึง 60% กำลังซื้อคริปโตเคอร์เรนซี หรือได้จัดการซื้อไปแล้ว
  • กลุ่มกิจการครอบครัวเหล่านี้มองว่าคริปโตเคอร์เรนซีเป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก เหมือนกับที่อินเทอร์เน็ตเคยทำมาแล้วในช่วงยุคแรกของการเข้ามาของเทคโนโลยี

ภายในตู้นิรภัยของบรรดากิจการครองครัวกว่า 200 แห่งของสิงคโปร์ มีเครื่องบันทึกความจำ หรือ USB กองอยู่

“พวกมันคือบัญชีแยกประเภทแบบล่าสุด” หนึ่งในผู้จัดการของธุรกิจครอบครัวกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “อิงกับราคาในวันนี้ มีบิทคอยน์มูลค่าอย่างน้อย 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐอัดแน่นอยู่ใน USB เหล่านั้น และเรายังมีอีก 2-3 โหลเก็บไว้ที่ฟรีพอร์ท (ใน ชางงี)”

ทั้งนี้ บรรดากิจการครอบครัวทั่วโลกตั้งแต่สิงคโปร์ไปจนถึงสวิตเซอร์แลนด์ ต่างได้พัฒนารสนิยมและรูปแบบของการกระจายอำนาจขึ้นภายในอาคารที่ตกแต่งอย่างดี แม้เรียบง่ายแต่ไม่ธรรม ในพื้นที่ตันจง ปาการณ์ ของสิงคโปร์

โดยจากการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ ทาง Goldman Sachs (-0.21%) พบว่าบริษัทต่างๆ ที่รับหน้าที่บิรหารจัดการความมั่งคั่งและเรื่องส่วนตัวสำหรับคนมีเงินทั้งหลายกำลังมองหาที่ช่องทางเข้าไปลงทุนกับคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น และเกือบครึ่งหนึ่งของธุรกิจครอบครัวต่างต้องการเพิ่มธุรกิจใหม่ ระดับสินทรัพย์เพื่อความมั่นคงของการลงทุน

Goldman Sachs เปิดเผยว่าการสำรวจล่าสุดในภาคธุรกิจครอบครัวทั่วโลกแสดงให้เห็นว่ามีกิจการครอบครัวมากถึง 15% ของ 150 แห่งลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีแล้ว ขณะที่อีก 45% สนใจที่จะเข้าสู่แวดวงคริปโต เพื่อป้องกันเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยต่ำที่ยืดเยื้อ และการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจมหภาค หลังจากการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินและการคลังทั่วโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมานานหลายปี

กิจการครอบครัวและกลุ่มคนมั่งคั่งถือเป็นตัวแทนของทรัพย์สินที่สำคัญภายใต้การบริหาร โดยมีการประมาณการมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวอาจสูงถึง 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้อภิหารเศรษฐีนักธุรกิจเหล่านี้กลายเป็นกำลังสำคัญในตลาดต่างๆ และสินทรัพย์ประเภทต่างๆ

และเนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่าตลาดเพียง 2.6 ล้านล้านดอลลาร์ (มีการเก็งกำไรสูง) ในวันที่ดี แม้แต่การจัดสรรเพียงเล็กน้อยโดยกิจการครอบครัวในสินทรัพย์ดิจิทัล ก็อาจจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

ที่ผ่านมา บรรดากิจการของครอบครัวนิยมลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล (เช่น การซื้อกิจการที่มีเลเวอเรจ เป็นต้น) และอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดของการเฟื่องฟูของการเก็งกำไรในบริษัทจัดหากิจการเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษหรือ SPAC

ขณะเดียวกัน เเนื่องจากสำนักงานกิจการครอบครัวไม่รับเงินจากภายนอก ออฟฟิศเหล่านี้จึงมีเงามืดซ้อนอยู่ อีกทั้ยังค่อนข้างมีภูมิคุ้มกันจากการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ ซึ่งบางครั้งก็มีผลลัพธ์ที่เลวร้ายตามมา

เมื่อต้นปีนี้ การระเบิดของ Archegos Capital Management ของ Bill Hwang ซึ่งเป็นสำนักงานของครอบครัวที่มีเลเวอเรจราว 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้บริษัทธนาคารรายใหญ่บางแห่งขาดทุนหลาย 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม เหล่าครอบครัวหลายแห่งที่เข้าร่วมการสำรวจโดย Goldman Sachs มีความเห็นว่าบล็อคเชนและคริปโตเคอเรนซีจะเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงได้ โดยเปรียบเสมือนเทคโนโลยีกับอินเทอร์เน็ตในยุคแรก ๆ และกระตือรือร้นที่จะเข้ามาทำร่วมในช่วงต้นทางเช่นนี้

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN