- Tether เคลื่อนหนีไปกับคริปโตดูจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย หลังเมื่อไม่นานนี้ถูกคณะกรรมาธิการตลาดโภคภัณฑ์ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ สั่งปรับเป็นเงิน 41 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ณ จุดนี้ อาจมีผู้ถือ USDT บางราย (ถ้ามี) ที่คาดหวังว่าแต่ละคนจะได้รับเงินดอลลาร์ในบัญชีธนาคารที่ไหนสักแห่ง
“โอ้ โอ้ รอยข่วน รอยข่วน แมรี แค่นี้ก็พอแล้ว”
– Mercutio, โรมิโอ&จูเลียต, วิลเลียม เชคสเปียร์, องค์ที่ 3 ฉากที่ 1
ในโลกของคริปโตเคอเรนซี การถูกปรับโดยหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
นั่นคือเหตุผลที่เมื่อ Tether ซึ่งเป็นเหรียญ stablecoin ที่ใช้งานมากที่สุดในโลกและมีมูลค่าตามราคาตลาดสูงถึง 69,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการบันทึกครั้งล่าสุด รอดพ้นจากคริปโตด้วยผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังคณะกรรมาธิการดูแลการซื้อขายในตลาดโภคภัณฑ์ฟิวเจอร์ส (CFTC) สั่งปรับเป็นเงินเพียง 41 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว CFTC ได้กำหนดโทษปรับ Tether และกล่าวหาว่าบริษัทได้ทำข้อความที่ทำให้เข้าใจผิดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016 ถึงกุมภาพันธ์ 2019 เป็นอย่างน้อยเกี่ยวกับการมีเงินสำรองเพียงพอสำหรับการหมุนเวียนเหรียญ Stablecoin แต่ละเหรียญ
แน่นอนว่าจักรวาลของ Stablecoin นั้นคล้ายคลึงกับการเล่นเกมส่งพัสดุเสมอ ไม่มีผู้ค้ารายใดยอมละทิ้งสภาพคล่องและคู่ของตลาดที่ USDT หรือ Tether สามารถจ่ายได้ในโอกาสแปลก ๆ ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนโดยดอลลาร์ทั้งหมด
เนื่องจากไม่มีธนาคารใดคาดว่าจะมีเงินผู้ฝากทั้งหมดพร้อมสำหรับการถอนเงินได้ทันที โดย Tether เกือบกลายเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในรูปแบบของ “เศษส่วนสำรอง Stablecoin” และส่วนใหญ่ผู้ค้าคริปโตเคอร์เรนซีก็ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าว
แม้จะมีค่าปรับจากทั้งอัยการสูงสุดในนิวยอร์กและ CFTC แต่ความต้องการ USDT ก็เพิ่มสูงขึ้นตามราคาของบิทคอยน์ และในขณะที่ Tether รวมถึง Bitfinex แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับ Tether ต่างก็จ่ายค่าปรับแล้ว พวกเขายังไม่ได้’ ยอมรับหรือปฏิเสธความผิด – ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ณ จุดนี้ อาจมีผู้ถือ USDT น้อย (ถ้ามี) ที่คาดหวังว่าแต่ละคนจะได้รับเงินดอลลาร์ในบัญชีธนาคารที่ไหนสักแห่ง
อันที่จริง Tether ถือครองหุ้นตามราคาตลาดราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากมูลค่าตลาด 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเอกสารเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยระยะสั้นคล้ายกับเงินสด แต่ก็ไม่มากนัก ทำให้เป็นผู้ถือหนี้รายใหญ่อันดับที่ 6 หรือ 7 ของโลก
ในฐานะผู้ถือครองกระดาษเชิงพาณิชย์รายใหญ่ Tether ได้แนะนำความเสี่ยงอย่างเป็นระบบจากโลกของสกุลเงินดิจิทัลมาสู่การเงิน และการทุ่มตลาดที่เป็นไปได้ใดๆ ก็ตามอาจทำให้สภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอุตสาหกรรมพลังงานและธุรกิจทั่วโลก
