Ripple ได้เผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์วถึงการร่วมมือกับ Azimo ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มโอนเงินด้วยดิจิทัล และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในการให้บริการโอนเงินจากประเทศไทยไปยังประเทศในภูมิภาคยุโรปโดยใช้เทคโนโลยี RippleNet
บริการดังกล่าวช่วยแก้ไขปัญหาค่าธรรมเนียมการโอนเงินที่สูงและปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้บริการบางราย อีกทั้งยังสามารถโอนเงินจากยุโรปมาไทยโดยใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งนาที ซึ่งในอดีต การโอนเงินระหว่างประเทศในยุโรปและประเทศไทยใช้เวลา 1-3 วันทำการ
ด้วยเทคโนโลยีของ RippleNet นี้ ทำให้ Azimo สามารถเคลียร์ริ่งสกุลเงินปอนด์ของอังกฤษและยูโรมายังเงินบาทไทยได้ในพริบตา Michael Kent ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของ Azimo เน้นย้ำว่าหลายประเทศกำลังปรับตัวมาใช้วิธีการโอนเงินที่มีความรวดเร็วขึ้นเช่นนี้
“เราได้จับมือกับธนาคารที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ของประเทศไทยในการพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ จากเดิมที่ต้องใช้เวลากว่า 24 ชั่วโมงมาเหลือเพียง 22 วินาที สำหรับการโอนเงินจากประเทศไทยไปยังยุโรป”
ข้อมูลของธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่มีการรับธุรกรรมโอนเงินมาจากต่างประเทศมากที่สุดในโลก โดยมีเงินไหลเข้ากว่า 6,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี แต่กลับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีต้นทุนการโอนเงินระหว่างประเทศที่ค่อนข้างสูง
ซึ่งการร่วมมือระหว่างไทยพาณิชย์กับ Azimo นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ทาง Azimo ได้เปิดตัวบริการโอนเงินระหว่างประเทศโดยใช้เทคโนโลยี On-Demand Liquidity ของ RippleNet ไปในประเทศฟิลิปปินส์ และยังมีเป้าหมายจะเปิดตัวบริการดังกล่าวในอีกหลายประเทศเร็ว ๆ นี้
โดยก่อนหน้านี้ด้านธนาคารไทยพาณิชย์ ก็พึ่งเผยถึงความร่วมมือกับบริษัท Ripple ในการสร้างระบบโอนเงินระหว่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำผ่านโมบายแอปพลิเคชั่นซึ่งมีบล็อกเชนหนุนหลังอีกด้วย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ทำความรู้จักกับเหรียญ XRP และ Ripple
