Binance เวบเทรดเงินดิจิทัลยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงการเทคโอเวอร์ CoinMarketCap ซึ่งเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตฯที่มีคนใช้อ้างถึงมากที่สุด ถือเป็นดีลใหญ่ที่สุดในวงการคริปโตฯที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงที่ไวรัสโควิด-19กำลังระบาดไปทั่วโลก
นาย Changpeng Zhao หรือ CZ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Binance ให้ความเห็นว่า ทั้งสองบริษัทมีความคล้ายคลึงกัน โดยต่างทำหน้าที่เป็นประตูสู่โลกของคริปโตฯ รวมถึงมีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้คนทั้งโลกเข้าถึงและใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
“การเทคโอเวอร์ครั้งนี้จะทำให้เราทั้งสองแข็งแกร่งและเติบโตขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังคงความโปร่งใสให้กับอุตสาหกรรมคริปโตฯ” CZ กล่าว
เขากล่าวเสริมว่า ทาง Binance ได้เจรจากับทาง CoinMarketCap มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะปิดดีลได้ในเดือนเมษายนนี้ ส่วนข่าวลือว่ามูลค่าของดีลนี้อยู่ที่ 400 ล้านเหรียญ ทางด้าน CZ กล่าวว่าไม่เปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงได้ จากเหตุผลของนโยบายการเก็บรักษาความลับระหว่างกัน
CoinMarketCap (CMC) จะยังคงความเป็นอิสระ
ประเด็นที่หลายคนสนใจคือเรื่องของความเป็นอิสระในการทำงานของ CoinMarketCap ซึ่งเรื่องนี้ CZ ย้ำว่า แม้ทั้งสองบริษัทกำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด แต่ทั้ง Binance และ CMC จะยังคงดำเนินธุรกิจแยกจากกันอย่างชัดเจน และจะมีความเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงต่อผู้ถือหุ้นภายนอก
“Binance จะไม่กดดันไปยัง CMC ในเรื่องการจัดอันดับ โดยทางบริษัทจะยังยึดมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลของตลาดคริปโตเคอเรนซี่ที่ถูกต้อง ทันต่อเวลา และมีคุณภาพ โดยเพียงแต่จะได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นจาก Binance ในแง่ของความเชี่ยวชาญ แหล่งทรัพยากร และความกว้างขวาง”
ขณะที่ Brandon Chez ผู้ก่อตั้ง CoinMarketCap กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอ โดยกล่าวว่าจากข้อตกลงดีลดังกล่าวจะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างภายใน โดย Carylyne Chan ผู้เป็น Chief Strategy Officer จะขึ้นรักษาการในตำแหน่งซีอีโอแทนไปก่อน แต่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของทีมงานในช่วงเร็ว ๆ นี้ หรืออย่างน้อยก็ภายในสองสามเดือนข้างหน้า
“จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวทีมงานแต่อย่างใด ทีมงานเดิมทุกคนจะอยู่ครบ และทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น” นาง Chan กล่าว
รักษาการซีอีโอยังให้ข้อมูลอีกว่าทาง Binance จะไม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและขั้นตอนของ CMC ในการลิสต์เหรียญ
“เรายังคงเข้มงวดกับมาตราฐานในการลิสต์เหรียญบนเว็บไซต์ของเรา เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่ากระบวนการนั้นมีความยุติธรรมและปราศจากความลำเอียงต่อทุกโปรเจกต์ที่ต้องการจะมาลิสต์เหรียญของตัวเองให้อยู่บน CMC โดยสิ่งเหล่านี้จะคงอยู่ดังเดิมและไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้หลังควบรวมกิจการแล้วก็ตาม”
สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังการควบรวม
Carylyne Chan รักษาการซีอีโอ กล่าวอีกด้วยว่า แม้การทำงานของสองบริษัทจะแยกจากกันเพื่อคงความเป็นกลางและโปรงใสไว้ แต่ทาง Binance ก็ยังมีแผนที่จะเข้ามาผลักดันและสนับสนุนให้ CMC ให้มีการพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ ๆ ในปีนี้
โดยทาง Binance มีพนักงานกว่า 800 คนทั่วโลกที่จะสามารถแบ่งปันความชำนาญในด้านต่าง ๆ เช่นการเงินและระบบรักษาความปลอดภัยให้กับทาง CMC ได้
“เราจะได้เรียนรู้อย่างมากจาก Binance ทั้งในด้านการจัดการทีม การทำธุรกิจที่มีธรรมาภิบาล รวมไปถึงด้านการเงินและการรักษาความปลอดภัย เพราะพวกเขามีจำนวนทีมงานที่ใหญ่กว่าเราและยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ”
อย่างไรก็ตาม ดีลดังกล่าวเกิดขึ้นหกเดือนหลังจากที่มีการรายงานว่าธุรกิจของ CoinMarketCap เริ่มที่จะถึงทางตันจากจำนวนเงินทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2019 ทาง CMC เคยออกมาชี้แจงว่า จะยังไม่มีแผนที่จะหาทุนเพิ่ม และจะเดินหน้าขยายงานและหาธุรกิจใหม่ ๆ ต่อเนื่องจากเงินทุนที่มีอยู่อย่างน้อยนิด
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : Binance จ่อเทคโอเวอร์ CoinMarketCap มูลค่าด้วยเงินกว่า 13,000 ล้านบาท
