Bitcoin พุ่งแรงเกือบ 10% แตะระดับ 15,500 ดอลลาร์ หลังจากที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯแม้ยังออกมาไม่เป็นทางการ แต่เริ่มเห็นภาพว่านายโจ ไบเด็น ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตจะเป็นผู้ชนะ ส่งผลให้สินทรัพย์การลงทุนไม่ว่าจะตลาดหุ้นหรือทองคำ ต่างปรับตัวพุ่งแรงทั่วโลก
ราคาทองคำพุ่งแรงกว่า 2.88% หรือประมาณ 50 ดอลลาร์ ทำให้ล่าสุดทองคำเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,950 ดอลลาร์ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวพุ่งแรงด้วยเช่นกัน
ส่วนของดัชนี Dollar Index อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วหลังจากมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น บ่งบอกว่านักลงทุนกล้าที่จะยอมรับความเสี่ยงมากขึ้นจึงมีการเคลื่อนย้ายเงินออกจากดอลลาร์ไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่มีความเสี่ยง ถ้าหากแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าหลุดแนวรับเดิมที่ระดับ 92.063 จุด จะยิ่งส่งผลดีต่อสินทรัพย์อื่นๆ
ทั้งนี้ Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความโดดเด่นที่สุดในปีนี้ด้วยผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ 108.40% ที่น่าสนใจคือหากนับเฉพาะไตรมาสที่สี่คือเดือนตุลาคมสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 38.89% ซึ่งทิ้งห่างสินทรัพย์ที่มีคุณสมบัติเดียวกันนั่นคือทองคำอย่างขาดลอย
หากวัดเฉพาะผลตอบแทนที่เกิดขึ้นเฉพาะไตรมาสที่สี่ของปีนี้ถือว่าดีที่สุดในรอบสองปีที่ผ่านมาซึ่ง BTC สร้างผลตอบแทนติดลบในไตรมาสสี่สองปีติดต่อกันแล้วและยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ที่ BTC สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้สามไตรมาสติดต่อกัน
เป้าหมายถัดไปที่ระดับ 16,300 ดอลลาร์
จากการใช้เครื่องมืออย่าง Fibonacci Retreatment วัดจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ 20,000 ดอลลาร์ และจุดสูงสุดล่าสุด 13,800 ดอลลาร์ จะพบว่าแนวต้านต่อไปของ BTC จะอยู่ที่ระดับ 16,300 ดอลลาร์ และหากผ่านระดับดังกล่าวไปได้เป้าหมายถัดไปคือจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 20,000 ดอลลาร์
หากใช้เครื่องมืออย่าง RSI จะเห็นว่าเข้าเขต Overbought มานานแล้ว แต่เมื่อย้อนกลับไปดู RSI ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตสามารถขึ้นไปถึงจุดสูงสุดในแต่ละรอบได้ถึงระดับ 91 รอบนี้จึงยังพอมีช่องว่างให้ขยับขึ้นไปได้อีก
แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเข้ามาเก็งกำไรในช่วงวันที่ผ่านมาน่าจะมีต้นทุนที่เสียเปรียบสาย Hodl แล้วแนะนำให้รอจังหวะย่อตัวก่อนถึงจะเข้าไปเก็งกำไร อย่าไปไล่ซื้อเด็ดขาด
Altcoin และ DeFi กลับมาคึกคักตามไปด้วย
นอกจากพี่ใหญ่อย่าง BTC แล้วตลาด Altcoin ยังกลับมามีสีสันอีกครั้งเช่นกัน โดยดัชนี SCN30 Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.89 จุด มาอยู่ที่ 263.61 จุด โดย ETH ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3% มาอยู่ที่ 416 ดอลลาร์ ส่วน LTC ปรับตัวขึ้นแรงในระดับเดียวกับ BTC คือ 8.4% อยู่ที่ 59.35 ดอลลาร์
ขณะที่ตลาด DeFi ที่ซึมไปนานก็ได้รับอานิสงด้วยเช่นกันโดย UNI บวกแรงกว่า 12% SNX บวกแรงกว่า 17.5% LEND บวกแรง 8.1%
อย่างไรก็ตามต้องติดตามภาวะตลาดหลังจากนี้อย่างใกล้ชิดเนื่องจากอาจมีความผันผวนที่ผู้สมัครอีกรายอย่างโดนัลด์ ทรัมป์เดินหน้าฟ้องศาลให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ในหลายรัฐที่คะแนนสูสีซึ่งอาจทำให้ส่งผลต่อคะแนนเสียงที่เปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
