fbpx
Skip to content Skip to footer

JP Morgan ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดใช้งานแพลตฟอร์มบล็อกเชนตัวใหม่ “Kadena” อย่างเป็นทางการ

JP Morgan บล็อกเชน

ศูนย์วิจัย Blockchain Center of Excellence ของบริษัทด้านการเงินการลงทุนชื่อดังอย่าง JP Morgan ได้ริเริ่มโครงการ Kadena นำโดย Will Martino ผู้บริหาร ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าทีวิศวกรของ JP Morgan มาก่อน และมีผู้ร่วมก่อตั้งโครงการดังกล่าวอย่าง Stuart Popejoy ทำหน้าที่เป็นประธานโครงการ

โดยโครงการ Kadena นั้นมีเป้าหมายที่จะสร้างแพลตฟอร์ม Kadena ขึ้นมา เพื่อเป็นเครือข่าย บล็อกเชน สำหรับการดำเนินการสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อยอดบนเครือข่ายโดยอาศัยภาษา Smart Contract ซึ่งได้คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะในชื่อ Pact อีกทั้งเครื่อข่ายดังกล่าวนั้นยังได้มีสกุลเงินดิจิตอลของตัวเองในชื่อ Kadena (KDN) และได้มีการขุดเหรียญดังกล่าวขึ้นในระบบแล้ว กว่า 2 ล้านบล๊อค

สำหรับ Kadena นั้นเป็นแพลตฟอร์มซึ่งมีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างเครือข่ายแบบสาธารณะและระบบเครือข่ายแบบปิด ซึ่งถูกควบคุมการดำเนินการบนภาษา Pact นอกจากนี้ ยังมีลักษณะพิเศษในการแก้ไขปัญหาด้านข้อจำกัดในการประมวลผลบล๊อคข้อมูล (Scalability) อย่างที่เกิดขึ้นกับบิทคอยน์ได้อีกด้วย

โดยในการแก้ปัญหาดังกล่าว ทางโครงการ Kadena ได้สร้างระบบเครือข่ายให้เชนของข้อมูลบนระบบนั้นมีหลายสายสำหรับแต่ละกลุ่มข้อมูล ทำให้การประมวลผลบล๊อคข้อมูลใช้เวลาและพลังในการประมวลผลต่อวินาทีที่น้อยลง ซึ่งผลการดำเนินการก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก โดยเครือข่ายสามารถที่เพิ่มความสามารถในการประมวลผลได้มากถึง 1.3 terahashes ต่อหนึ่งวินาที ภายในช่วงเวลาเพียงสองเดือน

สำหรับภาษา Pact นั้นเป็นการสร้างภาษาในการเขียน Smart Contract ขึ้นใหม่ โดยที่ผู้ใช้งานที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานและอ่านภาษาได้เข้าใจ อีกทั้งยังช่วยให้การเขียนโปรแกรมหรือคำสั่งต่างๆ ลงในเครือข่ายถูกต้อง ตรงไปตรงมา และปลอดภัยมากที่สุด 

ซึ่งในทางเทคนิคภาษาทางการโปรแกรมถูกสร้างขึ้นเพื่อแปลชุดคำสั่งอย่างเฉพาะเจาะจง ในชื่อ Turing Incomplete ซึ่งมีความปลอดภัยและแตกต่างจากภาษา Smart Contract ของ Ethereum หรือภาษาทางคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้แปลชุดคำสั่ง เพื่อให้สามารถใช้ได้กับภาษาและอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ภาษาแบบ Turing Complete ยังมีปัญหาเรื่องความซับซ้อนของภาษา และความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้จากกตัวภาษาที่เปิดกว้างแก่ชุดคำสั่งหรือชุดภาษาอื่นๆในการเขียนโปรแกรมโจมตีเครือข่ายได้ ซึ่งจากตัวอย่างของภาษารูปแบบดังกล่าวคือภาษา Solidity ซึ่งใช้บน Blockchain อย่าง Ethereum โดยเคยมีกรณีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นมาแล้วหลายกรณี อย่างเช่น การเจาะระบบเหรียญ DAO ไปจนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับ wallet ของทาง Parity เป็นต้น

ดังนั้น ภาษา Pact ของทางโครงการ บล็อกเชน Kadena จึงเป็นเหมือนประตูสำหรับเหล่าผู้ใช้งานทั่วไป รวมถึงเหล่าผู้ประกอบการและธุรกิจต่างๆ ในการดำเนินการสร้างแอปพลิเคชั่น หรือดำเนินธุรกรรมที่ต้องใช้การโปรแกรมโดยเฉพาะ สามารถเข้าถึงการดำเนินการดังกล่าวได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ทางโครงการ มูลนิธิ Web3 ยังได้เตรียมที่จะนำภาษาดังกล่าว มาใช้บนแพลตฟอร์ม Polkadot อีกด้วย 

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : CaixaBank เข้าร่วม “We.trade” แพลตฟอร์มการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN