fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

บริษัทออดิทยักษ์ใหญ่ KPMG เปิดตัวเครื่องมือวิเคราะห์คริปโตสำหรับนักลงทุนสถาบัน

kpmg

KPMG หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชี BIG 4 ของโลกได้เปิดตัวเครื่องมือวิเคราะห์ Crypto Asset เพื่อช่วยให้นักลงทุนสถาบันสามารถบริหารและจัดการการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ได้ง่ายขึ้น

เครื่องมือดังกล่าวใช้ชื่อว่า KPMG Chain Fusion โดยจะให้บริการข้อมูลต่าง ๆ ของบล็อกเชนและระบบการเงินเพื่อนำมาใช้ช่วยในการวิเคราะห์ธุรกิจ ความเสี่ยง และข้อบังคับทางกฎหมาย มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เหล่านักลงทุนสถาบันสามารถบริหารจัดการและเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเงินคริปโตฯได้ง่ายขึ้น ทั้งยังจะช่วยให้สถาบันฯใช้ระบบ Multi-Sig Wallet และตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายได้อย่างทั่วถึง

“เหล่าผู้กำกับดูแลด้านกฎหมายและบริษัทตรวจสอบบัญชีต่างคาดหวังในสิ่งเดียวกันนั่นคือมาตรการควบคุมและตรวจสอบแบบ 360 องศา ไม่ว่าสินทรัพย์นั้นจะมาในรูปแบบเงินดิจิทัลหรือสินทรัยพ์ทั่วไป” นาย Sam Wyner หันหน้าฝ่าย Crypto Asset ของ KPMG กล่าว

เขากล่าวต่อไปอีกว่า “แต่ความเป็นจริงมันมักไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแต่ละสินทรัพย์ต่างมีระบบของตัวเองที่แตกต่างกันไป KPMG จึงต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาในจุดนี้ด้วยการรวบรวมระบบของทั้งสินทรัพย์รูปแบบเก่าและใหม่เข้ามาอยู่ภายใต้ฐานข้อมูลเดียวกันเป็น One-Stop Service”

การเปิดทางให้เหล่านักลงทุนรายใหญ่เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เงินดิจิทัลได้ง่ายขึ้นและปลอดภัยนั้นจะมีส่วนช่วยให้ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้เหล่านักลงทุนสถาบันยังกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ลงมาเล่นในตลาดนี้เต็มตัวคือข้อบังคับและกฎหมายที่ไม่ชัดเจน การจัดทำไกด์ไลน์และแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ของ KPMG จะมาช่วยแก้ Pain Point ในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ จากผลสำรวจล่าสุดของ Fidelity จากนักลงทุนสถาบันกว่า 800 แห่งในสหรัฐฯและยุโรปพบว่า กว่า 80% มีมุมมองด้านบวกต่อสินทรัพย์ดิจิทัล และหนึ่งในสี่มีการครอบครองบิทคอยน์อยู่ ณ ปัจจุบัน

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Pomp แห่ง Morgan Creek แนะกองทุนเพื่อการเกษียณควรแบ่งเงิน 1-5% มาลงทุนในบิทคอยน์

ที่มา: Source

Leave a comment

เกี่ยวกับ NewsFirstLine

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN