แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาจะจบลงอย่างไม่สวยงามนักจากการที่ราคาของบิทคอยน์ร่วงลงมากว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่โลกยังตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกจากไวรัสโคโร่น่าที่พึ่งได้ชื่อใหม่ว่า Covid-19 ส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) อย่างเช่นทองคำ หรือแม้แต่ทองคำดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ทำการปรับตัวสูงขึ้นในด้านราคา
ราคาทองคำสามารถยืนได้ที่แนวรับบริเวณ 1,550 ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นยังทรงตัว และบิทคอยน์ซึ่งเป็นเหมือนลูกผสมของทั้งสองสินทรัพย์ โดยมีคุณสมบัติทั้งการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทอง แต่ก็ยังมีหลายคนนำมันมาใช้ในการลงทุนเก็งกำไรเหมือนอย่างหุ้น ได้มีการปรับราคาลดลงมาเพื่อทำการ cool-down แม้จะสามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับราคาสำคัญที่ 10,000 ดอลลาร์ ซักพักหนึ่งก็ตาม ณ ขณะนี้บิทคอยน์น่าจะขยับตัวอยู่ในกรอบราคา 9,700 – 9,950 ดอลลาร์
เนื่องจากขณะนี้ชาวโลกยังไม่ได้ตื่นกลัวและกังวลกับไวรัส Covid-19 มากนักเมื่อเทียบกับคนในจีนแผ่นดินใหญ่ เราจึงคาดว่าจะยังไม่มีการแห่ซื้อบิทคอยน์เพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาของบิทคอยน์จะทำการไซต์เวย์ไปก่อนในอาทิตยน์นี้
โดยบิทคอยน์ยังไม่มีท่าทีจะทะลุขึ้นไปยืนเหนือ 10,000 ดอลลาร์ได้ในช่วงนี้ แต่ด้วยการ Halving ที่กำลังมาในอีกไม่กี่เดือนนี้ ราคาก็ไม่น่าจะลงไปต่ำกว่า 9,500 ดอลลาร์เช่นกัน
แม้ขณะนี้บิทคอยน์จะทำการปรับราคาลงมาค่อนข้างมาก แต่เหล่า Altcoins ทั้งหลายเหมือนจะยังสามารถคงราคาไว้ได้ดีกว่าพี่ใหญ่ โดย Ethereum ยังคงราคาเหนือแนวรับระยะกลางที่ 220 ดอลลาร์เอาไว้ได้ ขณะที่ Bitcoin Cash และ Bitcoin SV ก็ยังรักษาระดับราคาที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้ไว้ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
แต่หากบิทคอยน์ปรับตัวลงไปต่ำกว่านี้ ให้ระวังลูกหลานตระกูลบิทคอยน์ทั้ง BCH และ BSV ไว้ให้ดี เพราะมีแนวโน้มว่าจะราคาจะร่วงรุนแรงมากกว่าเมื่อเทียบกับบิทคอยน์ ขณะที่ ETH ยังคงดูแข็งแรงกว่าและไม่น่าจะร่วงทะลุแนวรับ 220 ดอลลาร์ไปได้ง่ายๆ ในช่วงอาทิตย์นี้
อีกปัจจัยหนึ่งที่เราควรพิจารณาคือ บิทคอยน์ยังเป็นคริปโตฯอันดับหนึ่งของคนจีนเมื่อต้องการโอนย้ายทรัพย์สินออกจากประเทศ และหากสถาณการณ์ไวรัส Covid-19 ยังไม่มีท่าทีจะคลี่คลายในเร็ววันนี้ เราอาจได้เห็นชาวจีนเปลี่ยนทรัพย์สินของตัวเองให้เป็นบิทคอยน์เพื่อนำออกนอกประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อประกอบกับความผันผวนของบิทคอยน์ที่ลดลงในช่วงนี้ อาจเป็นเหตุจูงใจให้ชาวจีนใช้มันเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน (Medium of Exchange) เพื่อการโอนถ่ายทรัพย์สินข้ามพรหมแดนมากขึ้นก็เป็นได้
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ทำไมบิทคอยน์ถึงทำหน้าที่เป็น Safe Haven ได้ไม่ดีเท่าทองคำ?
