สิ่งใดเมื่อมีขึ้นย่อมมีลง ยืนยันได้จากเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ หลังมูลค่าของบิทคอยน์(BTC) พุ่งทำสถิติสูงสุดตลอดกาล(ATH) กว่า50,000ดอลลาร์สหรัฐ สิ่งที่ตามมาก็คือ การที่ค่าBTCปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้จะจะมีการดีดตัวกลับขึ้นมาได้บ้าง แต่บรรดานักลงทุนทั้งหลายก็ยังไม่แน่ใจในรอบวงจรของสินทรัพย์ดิจิทัลตัวนี้อยู่ดี

Michael Saylor ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และผู้ก่อตั้ง MicroStrategy.Inc เดินหน้าลุยซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติมอีกระลอก

Bridgewater ออกโรงแสดงความเห็นเกี่ยวกับเงื่อนไขในการพิจารณาให้บิทคอยน์มีสถานะเทียบเท่าทองคำ หรือเป็น “ทองคำดิจิทัล” (Digital Gold)

หลังจากระดมทุนได้ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านการเสนอขายตราสารหนี้ ทาง MicroStrategyก็ไม่รอช้ารีบเข้าซื้อบิทคอยน์รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 19,542 บิทคอยน์ทันที่ โดยราคาเฉลี่ยต่อหนึ่งบิทคอยน์ขณะซื้ออยู่ที่ 52,765 ดอลลาร์สหรัฐ

การดิ่งลงอย่างรุนแรงของราคาบิทคอยน์จากระดับสูงสุดที่ 57,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาแต่อยู่ที่ 48,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงราว 16% ในช่วงเเพียงข้ามคืน ส่งผลให้ตลาดคริปโตโดยรวมปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน โดยมีสินทรัพย์ดิจิทัลบางตัวร่วงหนักถึง 30%

BlackRock บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเผยบริษัทได้จัดการเข้าไปลงทุนบิทคอยน์แล้ว 

MicroStrategy ยังคงเดินหน้าลงทุนในบิทคอยน์ไม่หยุด ล่าสุดประกาศแผนเตรียมกว้านซื้อบิทคอยน์เข้ามาถือครองให้มากขึ้นกว่าเดิน ด้วยการขายพันธบัตรในการครอบครองของบริษัทให้มากขึ้น